seacanoe

บ.ซีแคนูไทยแลนด์ จำกัด บ้าน ร๊อคการ์เด้นท์ 125/461 บ้านทุ่งคา - บ้านสะปำ ต. รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทรศัพท์ 076 528839 - 40 โทรสาร 076 258841 อีเมล์: info@seacanoe.net เว็บไซต์ http://www.seacanoe.net/ Please visit my blog.Thank you so much. http://www.sanamluang.bloggang.com / http://tham-manamai.blogspot.com / http://www.parent-youth.net/ http://www.tzuchithailand.org/ http://www.pdc.go.th/ http://www.presscouncil.or.th / http://thainetizen.org/ http://www.ictforall.org

"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Bookmark and Share
Blognone

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ลูกช้างเหยียบฝาท่อเสริมคอนกรีตทะลุร่วงลึก1.6 ม.ทรมานติด 3 ชม.





วันที่ 09 สิงหาคม พ.ศ. 2552 เวลา 09:32:29 น.  มติชนออนไลน์

ลูกช้างเหยียบฝาท่อเสริมคอนกรีตทะลุร่วงลึก1.6 ม.ทรมานติด 3 ชม.

พลายพลุ ลูกช้างอายุ 3 ปี ตกลงไปในท่อคอนกรีตเสริมเหล็กความลึก1.6ม.ขณะควาญช้างพาเดินบนถนนจนเป็นเหตุให้ลูกช้างได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าโรงแรมระยองพาเลซ ถนนราษฎร์บำรุง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง โดยต้องติดอย่างทรมานถึง3ชม.กว่าช่วยออกมาได้

เมื่อเวลา 01.20 น.วันที่  9  สิงหาคม  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยยนต์  ศรีบุญ  อายุ  27 ปี เลขที่ 67 หมู่ 1 ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี  จ.สุรินทร์  นายธนาธิป   ศรีบุญ  อายุ 20 ปี น้องชายนายชัยยนต์  และนายวุฒิ   ยี่รัมย์  อายุ 18 ปี  อ้างว่า เป็นหลานจา พนม นักแสดงชื่อดังจากภาพยนตร์เรื่องอค์บาก และต้มยำกุ้ง พาลูกช้างพลายพลุ  อายุ 3 ปี เดินขายกล้วยน้ำหว้าและอ้อยถุง เพื่อให้คนที่สัญจรไปมาได้ซื้อขณะที่พาลูกช้างเดินบนฟุตบาทริมถนน ซึ่งมีฝ่าท่อคอนกรีตขนาด 1 X 1  เมตร ลึก 1.60 เมตร  ปิดทับ ทันใดนั้นลูกช้างกำลังเดินผ่านฝาท่อคอนกรีตเสริมเหล็กและพลัดตกลงไปในท่อระบายน้ำ ติดอยู่ในท่อทั้งตัว ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด บนฟุตบาทที่ปูด้วยตัวหนอนหน้าโรงแรมระยองพาเลซ ต.เนินพระ  อ.เมืองระยอง

 

หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างพรกุศล  ร่วมกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครระยอง นำกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือลูกช้างขึ้นจากท่อระบายน้ำ แต่ไม่สามารถช่วยขึ้นมาได้ จึงได้นำรถขุดเจาะคอนกรีต  และรถเฮี้ยบ  เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังจำนวนหลายนาย พร้อมเครื่องแสงสว่าง ปิดหัวปิดท้ายถนนราษฎร์บำรุงบริเวณจุดเกิดเหตุ  ทำให้การจราจรติดขัด ต้องเร่งระบายรถยนต์ให้ไปใช้เส้นทางอื่นแทน เนื่องจากมีประชาชนจำนวนนับ 100 คน มายืนมุงดูและคอยเอาใจช่วยลูกช้าง

 

เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถขุดเจาะพื้นคอนกรีต ที่ลูกช้างพลายพลุติดอยู่ในท่อระบายน้ำ และสามารถช่วยดึงขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ สภาพช้างมีอาการอ่อนเพลียหลังติดอยู่ในท่อ นานกว่า 3 ชม.จึงสามารถดึงลูกช้างขึ้นจากท่อระบายน้ำ ท่ามกลางเสียงปรบมือดังสนั่นที่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือขึ้นมาจากท่อได้ โดยไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

 

ชาวบ้านที่ยืนมุงดูเหตุการณ์ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ของวันที่  8 สิงหาคม ที่ผ่านมาเห็นควาญช้างกำลังจูงลูกช้างขึ้นไปเดินบนทางเท้าริมถนนปูด้วยตัวหนอน และมีฝาท่อคอนกรีตเสริมเหล็กปิดท่ออยู่  ทันใดนั้นได้ยินเสียงดังมาก ฝาคอนกรีตเสริมเหล็กแตกทะลุ ทำให้ลูกช้างพลายพลุ อายุ 3 ปี พลัดตกลงไปในท่อลึกประมาณ 1. 60 เมตร ควาญช้างไม่สามารถที่จะนำช้างขึ้นจากท่อได้  ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด   เจ้าหน้าที่ได้ประสานรถขุดเจาะคอนกรีต และรถเฮี้ยบ มาดำเนินการขุดเจาะคอนกรีตนานกว่า 3 ชม. ท่ามกลางไทยมุงนับ 100 คน ยืนดูเหตุการณ์ด้วยใจระทึก  เจ้าหน้าที่ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อจะช่วยเอาขึ้นจากท่อระบายน้ำให้ได้  ใช้เวลานานกว่า 3 ชม. จึงสามารถดึงลูกช้างขึ้นจากท่อได้สำเร็จ ท่ามกลางความดีใจและเสียงปรบมือให้กำลังใจเจ้าหน้าที่.


                                        http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1249785168&grpid=01&catid=no
--
      Weblink
http://ilaw.or.th
www.patani-conference.net
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://www.bedo.or.th/default.aspx
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://seminarmon.blogspot.com
http://seminartue.blogspot.com
http://seminarwed.blogspot.com
http://seminarthu.blogspot.com
http://seminarfri.blogspot.com
http://seminar1951.blogspot.com
http://seminardd.com

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

จัดผ้าป่า3 แสนไถ่ชีวิต "พังบังคำ"

จัดผ้าป่า3 แสนไถ่ชีวิต “พังบังคำ”

ข่าววันที่ 3 สิงหาคม 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

  

                                         จัดผ้าป่า3แสนไถ่ชีวิต พังบังคำ

 

 

** บั้นปลายอนาถตาบอด1ข้าง

** ประเดิมเชือกแรกส่งคืนป่า

 

    กทม.ขอเมตตาคนไทยช่วยช้างไทยถวายเป็นพระราชกุศล 77 พรรษามหาราชินี เปิดบัญชีตั้งกองผ้าป่าไถ่ชีวิต พังบังคำช้างแก่ตาบอดส่งคืนสู่ป่า พร้อมเล็งต่อยอดตั้งกองทุนถาวรช่วยช้างเร่ร่อน หากพี่น้องไทยต้องการทดแทนบุญคุณช้าง

 

    นายธีระชน  มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ ช้างยิ้มเพื่อแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนขอทานในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการสำรวจและตรวจสอบช้างเร่ร่อนเมื่อช่วง เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีควาญเจ้าของช้างคือนาย คำมั่น แสงจันทร์ ซึ่งดูแลช้างเพศเมียอายุ 30 ปี ชื่อบังคำ ปัจจุบันพิการตาข้างขวาบอด มีความประสงค์จะขายช้างเชือกดังกล่าวเป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท ซึ่งกทม.ได้ประสานไปยังมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติฯ เพื่อซื้อและปล่อยสู่ป่าตามธรรมชาติ แต่ด้วยช้างนั้นพิการ (ตาบอด)  อีกทั้งเป็นช้างบ้านอายุมาก หากปล่อยสู่ป่าตามลำพังอาจไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้

    อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช้างเชือกนี้มีอายุมากและพิการ สมควรปลดระวางและกลับไปอยู่ตามธรรมชาติของช้างโดยไม่ต้องทำงานหนักอีกต่อไป จึงได้ประสานศูนย์อนุรักษ์ช้างจ.กาญจนบุรี, มูลนิธิกองทุนรักษ์ช้างภาคเหนือ และมูลนิธิพระคชบาล ให้ช่วยจัดหาสถานที่และรับช้างไว้อยู่ในความดูแล ซึ่งทุกฝ่ายยินดีให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคัดเลือกสถานที่ปลายทาง

    ขณะที่ในส่วนของการหาเงินซื้อช้างเชือกดังกล่าวนั้น กทม.จะเปิดรับบริจาคเงินลักษณะเดียวกันกับการตั้งกองผ้าป่าไถ่ชีวิตโค-กระบือ แต่ในครั้งนี้จะเป็นการรับบริจาคเพื่อไถ่ชีวิตให้แก่ช้างแทน อีกทั้งเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 77 พรรษา ถวายเป็นพระราชกุศลด้วย

    ทั้งนี้ กทม.ได้เปิดให้ประชาชนผู้สนใจบริจาคผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยศาลาว่าการกทม. ชื่อบัญชี ช่วยชีวีช้างไปดูแลเลขที่บัญชี 088-0-03418-1 หรือที่ห้องทำงานของรองผู้ว่าฯ (ธีระชน) ศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า ในวันและเวลาราชการ ก่อนที่จะมีพิธีตัดโซ่ปล่อยตัวช้างในวันที่ 11 ส.ค.โดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. 

            สำหรับบัญชีดังกล่าวจะเปิดรับบริจาคไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.52 ก่อนที่จะปิดบัญชี ซึ่งถ้าหากมียอดเงินบริจาคเกินวงเงิน 300,000 บาท ทางกทม.จะนำยอดเงินที่เหลือทั้งหมดมอบให้แก่มูลนิธิต่างๆ ที่ให้การช่วยเหลือต่อไป นอกจากนี้ กทม.อาจพิจารณาจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนในเขตพื้นที่กทม.อีกครั้งหนึ่งหากโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จได้รับความสนใจตอบรับจากประชาชน นายธีระชนกล่าว

 

 

 

 
  รูปประกอบข่าว
http://www.siamrath.co.th/uifont/NewsDetail.aspx?cid=62&nid=43251

--
      Weblink
http://ilaw.or.th
www.patani-conference.net
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://www.bedo.or.th/default.aspx
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://seminarmon.blogspot.com
http://seminartue.blogspot.com
http://seminarwed.blogspot.com
http://seminarthu.blogspot.com
http://seminarfri.blogspot.com
http://seminar1951.blogspot.com
http://seminardd.com

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552

พักหัวใจ ปล่อยวางชีวิตสบายๆ กับ 10 หาดสวยในเอเชีย-แปซิฟิค

Friday Resort

Beachfront Yalong Bay Mangroove

Lipe Idyllic

manuia beach small

Phuquoc Le Veranda

Velassaru

Whitsunday islands





วันที่ 02 สิงหาคม พ.ศ. 2552 เวลา 11:59:40 น.  มติชนออนไลน์

พักหัวใจ ปล่อยวางชีวิตสบายๆ กับ 10 หาดสวยในเอเชีย-แปซิฟิค

อโกด้า เซอร์วิสเซส (www.agoda.co.th) ผู้ให้บริการเว็บไซต์สำรองห้องพักในโรงแรมทั่วไทยและทั่วเอเชียเผยโรงแรมหรือรีสอร์ทที่ตั้งอยู่บนชายหาดมักติดอันดับยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมใช้วันพักร้อนท่ามกลางหาดทรายขาวน้ำทะเลสวย แนะนำรายชื่อ 10 สุดยอดชายหาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคที่มีความสวยงามทางกายภาพพร้อมแนะนำ รีสอร์ทยอดนิยมในกลุ่มลูกค้าออนไลน์

 

โดยนายไมเคิลเคนนี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุดของอโกด้า กล่าวว่า เราพบว่านักท่องเที่ยวมักค้นหาข้อมูลที่พักบนชายหาดกว้างสวยงามด้วยทิวต้นมะพร้าวหรือปาล์มมีความขาวละเอียดของเม็ดทรายและที่สำคัญเงียบสงบเหมาะกับวันพักผ่อนอย่างแท้จริงดังนั้น ที่พักบนชายหาดที่มีลักษณะดังกล่าวทั้งตามเกาะต่างๆหรือเมืองชายทะเลจึงเป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะฤดูกาลเที่ยวทะเลทั้งในไทยและทั่วเอเชียแปซิฟิค และเพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวไทยมีเวลาวางแผนเที่ยวทะเลเมื่อหมดหน้าฝนนี้เราจึงขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับชายหาดสวยในเอเชียแปซิฟิคถึง 10แห่งพร้อมที่พักยอดนิยมของลูกค้าของเรา

 

1. หาดทรายขาว (White Beach) เกาะโบราเคย์ ประเทศฟิลิปปินส์

 

ไวท์บีช คือ หาดทรายสีขาวละเอียดเหมือนแป้งฝุ่นทอดตัวยาวเกือบ 4 กิโลเมตรกว้างเกือบ100 เมตร เป็นจุดดึงดูดสำคัญของเกาะโบราเคย์และมักติดอันดับต้นๆของสถานที่พักผ่อนของคนที่รักทะเล อโกด้ามีโรงแรม ในโบราเคย์ถึงเกือบ 50แห่ง แต่หากจะเลือกที่พักที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติของหาดนี้มากที่สุด ขอแนะนำ โรงแรมเพิร์ล ออฟ เดอะ แปซิฟิค, โรงแรม ฟรายเดย์ หรือ โรงแรมดิสคัฟเวอร์รี่ ชอร์สที่ลูกค้าของอโกด้าแนะนำว่าแขกที่พักจะได้ดื่มด่ำความงามของหาดไวท์ บีชและได้รับความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบมากที่สุดบนเกาะนี้

 

2. มัลดีฟส์

 

ทุกเกาะบนมัลดีฟส์ล้วนมีหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสีครามที่ใสเหมือนตู้ปลาและมอบความเป็นส่วนตัวได้มากที่สุดเพราะแต่ละเกาะจะมีเพียง 1 รีสอร์ทเท่านั้นอโกด้ามีรีสอร์ทหรูในมัลดีฟส์เกือบ 30 แห่ง หนึ่งในนั้นขอแนะนำ โรงแรมเดอะ เวลาสซารู ไอซ์แลนด์ บีช บนเกาะเวราสซารูลูกค้าของอโกด้าที่ยกให้โรงแรมระดับ 5 ดาวขนาด 129 ห้องแห่งนี้เป็นสวรรค์สำหรับวันพักร้อนที่แท้จริง หรือ โรงแรม โคคัว ไอซ์แลนด์ ที่ลูกค้าของอโกด้ายกนิ้วให้ไม่แพ้กัน ด้วยห้องพักแบบวิลล่าจำนวน 33 หลังที่เพียงก้าวเท้าลงจากวิลล่าก็หย่อนตัวลงทะเลเหมือนเป็นสระส่วนตัวขนาดมหึมาเลยทีเดียว

 

3. หาดซันย่าประเทศจีน

 

หาดซันย่า ทอดตัวยาวเป็นระยะทาง 7.5 กิโลเมตรตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองซันย่าเมืองริมทะเลแห่งเดียวในเขตโซนร้อนของประเทศจีน ซันย่ายังได้รับการขนานนามว่าเป็นฮาวายของเมืองจีนด้วยที่ตั้งในเส้นละติจูดเดียวกับฮาวายและมีสภาพอากาศที่คล้ายคลึงกัน หาดซันย่ามีหาดทรายขาวละเอียดที่มีต้นมะพร้าวเรียงรายอยู่ตามชายหาดและมีอากาศที่อบอุ่นตลอดทั้งปีอโกด้าขอแนะนำ เดอะยาลอง เบย์ แมนกรูฟ ทรี รีสอร์ท โรงแรม ริทซ์ คาร์ลตัน หรือโรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล สุดหรู ที่ล้วนมอบบริการชั้นเลิศและยังมีโรงแรมในซันย่าอีกถึง 30 แห่งในเว็บไซต์อโกด้าที่ให้ข้อมูลรูปภาพอย่างละเอียดพร้อมรีวิวจากลูกค้า

 

4. หาดซันไรส์ เกาะหลีเป๊ะ ประเทศไทย

 

เกาะหลีเป๊ะ ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันบริเวณเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล เกาะหลีเป๊ะ มีอีกชื่อหนึ่งว่า เกาะกระดาษด้วยภูมิประเทศที่เป็นเกาะที่แบนราบและมีชายหาดสีขาวสะอาดขนาดกว้างจึงดูเหมือนแผ่นกระดาษลอยอยู่ในน้ำทะเลสีฟ้าครามหาดซันไรส์ ยังคงความเป็นธรรมชาติและเงียบสงบและมอบความเป็นส่วนตัวมากที่สุดบนเกาะหลีเป๊ะ อโกด้าขอแนะนำบูติครีสอร์ทเล็กๆอย่าง ไอดีลลิคคอนเซปต์ รีสอร์ทวิลล่าบนชายหาดดีไซน์ทันสมัยที่เพียงก้าวเท้าออกจากห้องพักก็จะได้สัมผัสทรายนุ่มละเอียดลูกค้าของอโกด้ายังแนะนำว่าน้ำทะเลบนหาดนี้ใสสะอาดและไม่มีคลื่นแรงเหมาะกับการแหวกว่ายโดยไม่มีอันตราย

 

5. หาดฟู้ก๊วก (Phu Quoc) ประเทศเวียดนาม

 

หาดฟู้ก๊วก คือ ชายหาดบนเกาะที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามตั้งอยู่ในเขตทะเลอ่าวไทยฟู้ก้วกเป็นหาดที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อแต่หากใครได้เคยไปเยี่ยมชมหาดนี้ จะตื่นตะลึงในความเป็นธรรมชาติที่ยังมีให้เห็นอยู่มากด้วยชายหาดสีขาวที่ละเอียดเหมือนน้ำตาลทรายและน้ำทะเลใสแจ๋วเชื่อว่าฟู้ก๊วกจะเป็นที่นิยมและก้าวเข้าสู่ทำเนียบชายหาดยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในไม่ช้ารีสอร์ทที่อโกด้าขอแนะนำได้แก่ แกรนด์เมอริเดียน เลอ วิรันดา รีสอร์ท รีสอร์ทหรูทันสมัยและ เชน ลารีสอร์ทรีสอร์ทอนุรักษ์ธรรมชาติที่มีที่พักแบบบังกาโลบนชายหาดไว้บริการ

 

6. หาดเตลุก ปาอู (Teluk Pauh) ประเทศมาเลเซีย

 

หาดเตลุก ปาอู ตั้งอยู่บนเกาะเพอร์เฮนเทียน บีซาร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศมาเลเซียเป็นหนึ่งในชายหาดส่วนตัวที่สวยงามที่สุดด้วยน้ำทะเลใสและยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำอโกด้าขอแนะนำ เพอร์เฮนเทียไอซ์แลนด์ รีสอร์ท ที่เหมาะอย่างยิ่งกับวันพักผ่อนของครอบครัวด้วยชายหาดส่วนตัวขาวสะอาดและน้ำทะเลใสสะอาด และอุ่นกำลังดี นอกจากนี้ ยังมีจุดดำน้ำไม่ไกลจากที่พักมากนักที่สามารถนำนักท่องเที่ยวไปยังอุทยานพันธุสัตว์น้ำแห่งชาติของมาเลเซีย

 

7. หาดทับแขก จังหวัดกระบี่ ประเทศไทย

 

หาดทับแขกที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมเล็กๆของจังหวัดกระบี่ยังคงความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบและแวดล้อมไปด้วยธรรมชาตินกทะเลและสัตว์น้ำหาดทับแขกยังขึ้นชื่อว่าเป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย อโกด้าขอแนะนำ ทับแขกรีสอร์ท รีสอร์ทหรูระดับ4.5 ดาว ที่ได้รับรางวัลหลายรางวัลแห่งนี้จะทำให้วันหยุดพักผ่อนสมบูรณ์แบบที่สุดหรือจะเลือกพักที่ อมารีโวค รีสอร์ทที่ลูกค้าอโกด้ายืนยันว่าจะได้ความเป็นส่วนตัวจริงๆเพราะตั้งอยู่ ในบริเวณที่ค่อนข้างเงียบสงบของหาด

 

8. หาดราโลทองกาตะวันตก (West Ralotonga) หมู่เกาะคุก

 

หาดราโลทองกา (Rarotonga)ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับเกาะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของหมู่เกาะคุกในมหาสมุทร แปซิฟิคตอนใต้ หากต้องการใกล้ชิดหาดทราย สายลม แสงแดด ขอแนะนำโรงแรมมานุยอาบีช บูติค ที่ตั้งอยู่บนหาดสวย และสงบแห่งนี้และสามารถมองเห็นวิวของลากูน แนวประการังและยังสามารถทอดสายตายาวไกลไปยังท้องทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิคโดยมีภูเขาเขียวครึ้มด้วยความสมบูรณ์ของต้นไม้เป็นฉากหลังอีกหนึ่งรีสอร์ท คือ เอจวอเตอร์ รีสอร์ท Edgewater Resort ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางส่วนป่าเขตร้อนที่กินบริเวณถึง 6 เอเคอร์มีหาดทรายขาวที่มีต้นปาล์มทอดตัวขนานกับชายหาดและยังมองเห็นบลูลากูนที่มีวิวแบบพาโนราของภูเขาเป็นฉากหลังของรีสอร์ท

 

9. หาดทันจุง รู (Tanjung Rhu) เกาะลังกาวีประเทศ มาเลเซีย

 

หาดทันจุง รู ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเกาะลังกาวี ซ่อนตัวอยู่ในอ่าวเงียบๆเป็นชายหาดทรายขาวสะอาดที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสสายลมอ่อนๆ จากท้องทะเลของมหาสมุทรอินเดียและด้วยความโค้งของอ่าวเป็นเกราะกำบัง หาดทันจุง รู จึงเป็นหาดที่น้ำไม่ลึกไม่มีคลื่นลมแรง และแดดไม่จัด เหมาะอย่างยิ่งกับการว่ายน้ำได้ทั้งวันหากต้องการดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ของหาดทรายขาวระยิบระยับยามต้องแสงแดดกับท้องทะเลสีครามแสนสวยแบบไม่มีอะไรบดบังขอแนะนำ ทันจุงรู รีสอร์ท  หรือโฟว์ ซีซั่น รีสอร์ท ที่แวดล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้ของป่าเขตร้อนน้ำทะเลสีเขียวมรกตและ มีภูเขาเป็นฉากหลังของรีสอร์ท

 

10. หาดไวท์ฮาเว่น (Whitehaven Beach) ประเทศออสเตรเลีย

 

ความขาวของหาดไวท์ฮาเว่นที่เป็นหนึ่งในหมู่เกาะวิธซันเดย์อันโด่งดังของออสเตรเลียแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าขาวที่สุดในโลกโดยเม็ดทรายเป็นผลึกซิลิการะยิบระยับถึง 98เปอร์เซ็นต์ นอกจากเป็นหาดที่ขาวที่สุดแล้ว ยังเป็นหาดที่ไกลที่สุดอีกด้วยเพราะสามารถเดินทางไปถึงโดยเรือเท่านั้นและไม่มีที่พักบนหาดแห่งนี้เลยสักแห่งเดียวนักท่องเที่ยวมักจะเลือกพักที่เกาะฮามิลตัน ที่เป็นเกาะที่ใกล้กับหาดนี้มากที่สุดอโกด้าขอแนะนำ โรงแรมควอเลียโรงแรมหรูระดับ 5+ ดาวสไตล์วิลล่ามีระเบียงส่วนตัวให้สามารถมองเห็นวิวของเกาะโดยรอบได้อย่างน่าทึ่งอีกแห่งหนึ่ง คือ โรงแรม ฮามิลตัน ไอซ์แลนด์ บีช คลับ โรงแรมสไตล์บูติคระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่บนหาดส่วนตัวที่สามารถมองเห็นวิวของหมู่เกาะวิธซันเดย์ได้กว้างไกล
                                           http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1249189099&grpid=01&catid=02

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.presscouncil.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://ilaw.or.th
http://www.pnac-th.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://dbd-52.hi5.com
http://www.thaisara.com
http://www.oknation.net/blog/aumpradya
http://www.oknation.net/blog/roungkaw
http://www.oknation.net/blog/pacm/2009
http://www.oknation.net/blog/summer

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) อาคารอัญมณี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับไทย
คลิสตัล 3 แสนกระรัตที่ใหญ่ที่สุดในโลก

แสงแวบวับแวววาวสะท้อนเข้าตายามต้องไฟ…นั่นคือคุณสมบัติอย่างหนึ่งของอัญมณี ที่ฉันได้เห็นเมื่อได้มีโอกาสเข้าไปเยือนใน “พิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับไทย” ในรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งส่วนใหญ่คนมักไม่ค่อยรู้กันว่าในจุฬานั้นจะมีอัญมณีทรงคุณค่าระดับโลกซุกซ่อนอยู่

งานนี้คุณผู้หญิงหลายๆ ท่านที่ชื่นชอบในแสงสีวาววับของเครื่องประดับเพชรพลอยและอัญมณีต่างๆ ก็ไม่ต้องนึกอิจฉาฉันหรอก เพราะหากมีเวลาก็สามารถไปเที่ยวชมกันได้ โดยพิพิธภัณฑ์แหงนี้ มีแนวคิดที่อยากให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้ตั้งแต่จุดกำเนิดของอัญมณี ไปจนถึงขั้นกลายเป็นเครื่องประดับที่สูงค่าในท้ายที่สุด

ทั้งนี้อัญมณีแต่ละแบบแต่ละประเภทในพิพิธภัณฑ์นี้ล้วนแล้วแต่เป็นอัญมณีแท้ที่ได้มาจากธรรมชาติ โดยจะแบ่งพื้นที่จัดแสดงเป็น 5 ส่วน ด้วยกัน ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึง เจ้าหน้าของพิพิธภัณฑ์ก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงพาฉันเดินชมในส่วนแรกทันทีนั่นก็คือ ส่วน “การจัดแสดงแบบจำลองการเกิดอัญมณี และเหมืองอัญมณี”

ในส่วนนี้แสดงให้เห็นว่า อัญมณีราคาแพงเหล่านั้นเกิดจากหิน...หินที่ดูด้อยค่าแต่หากได้รับสารประกอบในระดับที่เหมาะสมกับการเกิดอัญมณีเหล่านั้นๆ เป็นเวลาหลายหมื่นหลายแสนหลายล้านปี จนมนุษย์ได้มาค้นพบและนำมาผ่านกระบวนการต่างๆ กระทั่งกลายมาเป็นอัญมณีที่สูงค่าและสวยงาม

การจัดแสดงแบบจำลองการเกิดอัญมณีและเหมืองอัญมณีในส่วนที่หนึ่ง
บริเวณ โต๊ะช่าง
ที่ใช้ในการเจียระไนอัญมณี

ซึ่ง หิน แร่ หรือสารอินทรีย์ ที่จะมาเป็นอัญมณีได้นั้นจะต้องมีความสวยงาม สามารถนำไปใช้ตกแต่งเป็นเครื่องประดับได้ โดยมีคุณสมบัติสำคัญ 3 ประการ คือ ความสวยงาม ความคงทน และหายาก เพราะคุณสมบัติเหล่านี้กระมังที่ทำให้เหล่ามวลอัญมณีทั้งหลายมีราคาแพง

ในอดีตการทำเหมืองพลอยในประเทศไทยเป็นการขุดแร่รายย่อยของชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ โดยใช้วิธีร่อนแร่บริเวณท้องลำธารทั่วไป ต่อมาในปี พ.ศ.2446 ได้มีการขอประทานบัตรสำรวจและทำเหมืองพลอยในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ตราด กาญจนบุรี และแพร่ แล้วมีการเปิดทำเหมืองโดยใช้เครื่องมือและเครื่องจักรขนาดใหญ่ รวมทั้งนำเทคโนโลยีอันทันสมัยมาใช้

ตัวอย่างเครื่องประดับต่างๆ ที่ทำจากทองคำ
ถึงว่าแต่ก่อนฉันเคยได้ยินลุงๆ ป้าๆ แถวบ้านเขาบอกว่า จะออกจากหมู่บ้านไปขุดทองจะได้ร่ำรวยกลับมา แต่จนบัดนี้ฉันก็ยังไม่เห็นว่าจะมีใครรวยเป็นเศรษฐีสักคน เพราะการจะร่ำรวยได้นั้นฉันว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่งานอย่างเดียวมันต้องอาศัยความขยันซื่อสัตย์อดทน และมีความสุขกับงานที่ทำเสียมากกว่า

จากการขุดแร่แล้ว ก็ต้องมาจำแนกลักษณะของเพชรพลอยซึ่งจะใช้ ระบบผลึก สามารถแยกได้เป็น 6 ระบบ คือ ระบบสามแกนเท่า หรือพวกผลึกรูปลูกบาศก์ ลูกเต๋า เช่น เพชร การ์เบต สปิเนล เป็นต้น, ต่อมาคือระบบสองแกนเท่า หรือหน้าตัดผลึกรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เช่น เพทาย และรูไทล์, ระบบสามแกนราบ เช่น ควอตซ์ และคอรันดัม

ระบบที่สี่คือ ระบบสามแกนต่าง หรือหน้าตัดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เช่น โทแพช และแอนสตาไทต์, ระบบหนึ่งแกนเอียง เช่น ยิปซัม และสปอดูมีน, และระบบสุดท้ายคือ ระบบสามแกนเอียง เช่น เทอร์คอยส์ เป็นต้น อ่านดูแล้วอาจจะยังงงงง นึกภาพไม่ออก ฉันขอแนะนำให้ลองมาที่พิพิธภัณฑ์อัญมณีแห่งนี้ดูสักครั้ง นอกจากจะได้เห็นภาพแล้วยังสามารถรายละเอียดเพิ่มเติมกับวิทยากรได้โดยตรงอีกด้วย

จากส่วนแรกฉันเดินต่อมายังส่วนที่สอง คือ “การจัดแสดงตัวอย่างแร่และอัญมณีทุกประเภท” ในส่วนนี้จะจัดแสดงตั้งแต่ผลึกแร่แบบก้อนดิบ และผลึกที่ผ่านการเจียระไนแล้ว ซึ่งการเจียระไนก็จะแบ่งเป็นการเจียรแบบหลังเต่าหรือแบบที่โค้งมน เหมาะกับอัญมณีที่ไม่ค่อยจะบริสุทธิ์หรือมีตำหนิมาก กับการเจียรแบบเหลี่ยมเจียระไน ซึ่งจะมีลักษณะเป็นเหลี่ยมๆ ทำยากกว่าการเจียรหลังเต่า เหมาะสำหรับอัญมณีที่มีความบริสุทธิ์มาก และการทำเหลี่ยมจะทำให้เกิดแสงแพรวพราว ระยิบระยับมากกว่าอีกด้วย

หินที่ได้รับสารประกอบที่เหมาะสมกับการเกิดเป็นอัญมณี
ในการจัดแสดงส่วนที่สองนี้ มีตู้โชว์อัญมณีอยู่ครบทุกประเภท แล้วแต่ละประเภทยังแบ่งชื่อย่อยไปตามแต่ละสีอีกด้วย จนฉันไม่สามารถจำชื่อทั้งหมดได้เพราะมันช่างเยอะเสียเหลือเกิน อัญมณีบางประเภทฉันยังไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ

ระหว่างที่ชมในส่วนนี้ เจ้าหน้าที่ตั้งคำถามขึ้นมาว่า รู้ไหม อะไรแข็งที่สุดในโลก? ซึ่งแน่นอนคำตอบก็คือเพชร แล้วรู้ไหม อัญมณีอะไรเหนี่ยวที่สุด? ฉันอั้มๆ อึ่งๆ ชั่วครู่แล้วก็ตอบไปว่าใช่เพชรอีกหรือเปล่า เจ้าหน้าที่ส่ายหน้าพร้อมบอกกับฉันว่า หยกเป็นอัญมณีที่เหนียวที่สุด ทนต่อการโดนกระแทกกะเทาะ ส่วนเพชรแข็งที่สุดในโลกนั้นจะทนต่อการขูดขีด

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังแนะให้ฉันฟังถึงวิธีดูอัญมณีแบบง่ายๆ ว่า “หากเป็นเพชรถ้าดูมีสีรุ้งๆ น่าจะเป็นพวกแก้วมากกว่า ถ้าเป็นมุกที่มีผิวเรียบเสมอเท่ากันหมดอาจจะเป็นมุกปลอม วิธีทดสอบมุกจริงง่ายๆ คือ เอามุกไปขูดกับฟัน หากขรุขระเล็กน้อยก็น่าจะเป็นมุกแท้ และหากเป็นพลอยถ้าเอาแว่นขยายไปส่องด้านในดูสวยสดใสไม่มีตำหนิเลย ก็น่าจะเป็นของปลอม เพราะจริงๆ แล้วธรรมชาติของอัญมณีมันจะมีตำหนิอยู่บ้างซึ่งตำหนิเหล่านั้นก็คือรอยของชั้นหินนั้นเอง”

ตู้แสดงอัญมณีประเภทต่างๆ ในส่วนที่สอง
ฉันแอบจำข้อมูลเหล่านี้ไว้แม่น เผื่อวันใดมีโอกาสได้ช่วยเหลือสาวๆ สวยๆ เลือกเครื่องประดับ จะได้ดูมีภูมิกับเขาบ้าง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพาฉันเดินชมต่อไปยังส่วนที่สาม คือ “การจัดแสดงการเจียระไนเพชร และการเจียระไนอัญมณี” ซึ่งในส่วนนี้มีโต๊ะเครื่องมือ เครื่องใช้ของช่างในการเจียระไนอัญมณีให้ออกมาเป็นรูปแบบ รูปทรงที่สวยงามต่างๆ ดูจากเครื่องมือเครื่องใช้เหล่านี้ และผลึกอัญมณีที่เห็น ช่างคงต้องใช้ความละเอียดและประณีตมากโขเลยเชียวหละ

ถัดจากส่วนนี้เป็นส่วนที่สี่ คือ “การจัดแสดงตัวอย่างโลหะมีค่า และวิธีการผลิตเครื่องประดับทองคำ แพลทินัม และเงิน” และส่วนสุดท้ายได้แก่ “การจัดแสดงตัวอย่างเพชร อัญมณีสังเคราะห์ และอัญมณีเลียนแบบ” เช่น คลิสตัลของ Swarovski และ Synthetic Cubic Zirconia เป็นต้น นอกจากนี้ในพิพิธภัณฑ์ยังมีตู้จัดแสดงโชว์คลิสตัล หรือแก้วสังเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนักมากถึง 62 กิโลกรัม 3 แสนกระรัต 100 เหลี่ยมเจียระไน ซึ่งหากใครอยากเห็นก็ต้องมาลองชมที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้

ในตอนแรกที่มาฉันยังคิดว่า ผู้หญิงนี่ก็แปลก...จะปักใจชอบเพชรชอบพลอยอะไรกันหนักหนา แพงๆ ก็แพง แต่มาตอนนี้ฉันก็ได้รู้ว่า อัญมณีเหล่านี้ช่างดึงดูดใจอย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งได้เรียนรู้เรื่องราวของมันก็ยิ่งทำให้รู้สึกถึงคุณค่าและอยากมีไว้ในครอบครอง ขนาดฉันเป็นผู้ชายยังคิดแบบนี้ นี่ถ้าเป็นผู้หญิงฉันว่าเมื่อได้เข้ามาดูในพิพิธภัณฑ์แล้วคงต้องรีบตรงดิ่งไปหาซื้อหาใส่กันอย่างแน่นอน

หลังจากที่ฉันเดินชมความงามของเหล่าอัญมณีจนเต็มอิ่มแล้ว ติดกับห้องพิพิธภัณฑ์ยังมี “ห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ” ให้ฉันได้เพิ่มเติมความรู้ และดูผลงานเครื่องประดับอัญมณีสวยๆ อีกหลากหลายแบบ ทั้งยังมีหนังสือด้านธรณีวิทยาและอัญมณีศาสตร์ โลหะวิทยา การผลิต การออกแบบ การตลาด รายงานการวิจัย และอีกหลากหลายทั้งในและต่างประเทศให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมในพิพิธภัณฑ์หรือผู้ที่สนใจสามารถมาศึกษาเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง

เจ้าหน้าที่แอบบอกทิ้งท้ายว่า ก่อนหน้านี้เพชรได้รับความนิยมมาก แต่ในตอนนี้เพชรกำลังจะหมดความนิยม ในขณะที่พลอยสีกำลังมาแรงแซงโค้ง ยิ่งสีเข้มก็ยิ่งมีราคา ลองหาซื้อเครื่องประดับพลอยสีไปฝากแฟนสักชิ้นซิ แฟนรักตายเลย ฉันยิ้มและแอบรู้สึกโชคดีในใจที่ยังไม่มีแควน




“พิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับไทย” สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) อาคารอัญมณี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถ.พญาไท กรุงเทพฯ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ได้ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00-16.30 น. อัตราค่าเข้าชมต่อคน คนต่างชาติ 100 บาท คนไทย 50 บาท นักเรียน/นักศึกษา 20 บาท พร้อมวิทยากรคอยให้ความรู้ หากมาเป็นหมู่คณะควรโทรแจ้งลวงหน้า หรือสอบถามโทร 0-2218-5470 ต่อ 22


ที่มาข้อมูล : ผู้จัดการ
 
https://www.myfirstbrain.com/AroundTheCity_View.aspx?Id=56816

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.parent-youth.net
http://www.familynetwork.or.th
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://ilaw.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://icann-ncuc.ning.com
http://dbd-52.hi5.com
http://www.webmaster.or.th
http://www.thailandshowtime.com/2009

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ยล "สุริยคราส" เหนือฟากฟ้าแดนมังกร

ยล "สุริยคราส" เหนือฟากฟ้าแดนมังกร ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2552 15:24 น.

       
ภาพปรากฎการณ์แหวนเพชร ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อลำแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ลอดผ่านหลุมอุกาบาตบนดวงจันทร์ ก่อนและหลังการบังมืดหมดดวงประมาณ 10 วินาที ถูกถ่ายเหนือท้องฟ้านครฉงชิ่ง

       ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามสำหรับปรากฏการณ์สุริยุปราคาในวันที่ 22 ก.ค. ที่เงามืดบดบังดวงอาทิตย์กินระยะเวลานานถึง 6 นาที นับเป็นระยะเวลายาวนานสุดในรอบศตวรรษ ซึ่งใครพลาดโอกาสชมก็นับเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะปรากฏการณ์สุริยคราสที่ยาวนานเช่นนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2675 หรืออีก 123 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว
       
       สำหรับประเทศไทยนั้น ปรากฏให้เห็น “สุริยุปราคาบางส่วน” โดยเริ่มต้นในช่วงเช้าประมาณ 07.00 น. และสิ้นสุดปรากฏการณ์ในช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. แต่ประชาชนที่ต้องการสัมผัสกับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาดูได้ยากนี้บางส่วนตัดสินใจเก็บกระเป๋าบินลัดฟ้าไปชมที่จีน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดชม “สุริยุปราคาเต็มดวง” ที่เห็นชัดที่สุด นอกจากอินเดียและญี่ปุ่น
       
        สำนักข่าวซีซีทีวีรายงานว่า ประชาชนนับล้านแห่แหนกันไปชมปรากฏการณ์ดังกล่าวทางฟากตะวันตกเฉียงใต้และตะวันออกของประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ผู้ชมในบางพื้นที่พบอุปสรรคในการชมบ้างจากเมฆฝนที่หนาทึบ อย่างนครเซี่ยงไฮ้ที่เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปปักหลักชมปรากฏการณ์ครั้งนี้ ก็เผชิญกับเมฆฝนบดบังช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความมืดที่เกิดจากการที่ดวงจันทร์เคลื่อนตัวบดบังดวงอาทิตย์
       
        “มันเป็นสิ่งน่าอัศจรรย์มาก ที่ในชั่วพริบตากลางวันก็กลายเป็นกลางคืน...ฉันรู้สึกอย่างกับไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง” เฉิน หง ซีอีโอจากบริษัทไบโอเทคแห่งหนึ่งที่เฝ้าสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ดังกล่าวให้สัมภาษณ์อย่างตื่นเต้น - ASTVผู้จัดการออนไลน์


     
พระจันทร์ค่อยๆ โคจรผ่านกลางระหว่างดวงอาทิตย์และโลก ท่ามกลางเมฆที่หนาทึบในเมืองหลันโจว มณฑลกันซู่ ทางตอนเหนือของจีน สุริยคราสเต็มดวงเหนือฟ้านครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน สุริยคราสเต็มดวงในเมืองฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
     
ภาพสุริยุปราคาที่ถ่ายจากเครื่องบินโดยสารลำหนึ่ง ซึ่งบินจากเมืองลาซาของทิเบตไปยังเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน อีกภาพหนึ่งที่จับภาพได้จากเครื่องบินบินจากลาซาไปยังเฉิงตู สุริยคราสที่โจวซัน มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน
     
ท้องฟ้ามืดครึ้มขณะเกิดสุริยุปราคาที่โจวซัน มณฑลเจ้อเจียง สุริยุปราคาที่เมืองอิ๋นชวน เขตปกครองตนเองชนชาติหุย หนิงเซี่ย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน สุริยุปราคาที่อูหลู่มู่ฉี (อุรุมชี) เขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ ซินเจียง
     
พระจันทร์ค่อยเคลื่อนมาบดบังพระอาทิตย์ ที่ฮ่องกง สุริยุปราคาที่ฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกของจีน ปรากฏการณ์เหนือฟ้าอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย
   
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9520000082890


--
      Weblink
http://ilaw.or.th
www.patani-conference.net
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://www.bedo.or.th/default.aspx
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://seminarmon.blogspot.com
http://seminartue.blogspot.com
http://seminarwed.blogspot.com
http://seminarthu.blogspot.com
http://seminarfri.blogspot.com
http://seminar1951.blogspot.com
http://seminardd.com

ผู้ติดตาม

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com

รายการบล็อกของฉัน