Please visit my blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://dbd-52.hi5.com
ถึงชะตากรรมเมืองไทยในยามนี้จะเปรียบเสมือนถูกผูกอยู่ปลายเส้นด้าย อันเนื่องมาจากแรงฉุดของเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ และถึงบ้านเราจะไม่มีพลังงานใต้พิภพเพื่อขุดเจาะขึ้น มาเป็นเชื้อเพลิงเหมือนประเทศเศรษฐีบ่อน้ำมัน
แต่ก็น่าภูมิใจที่เรายังมี ทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งเหนือ พื้นพิภพและใต้ท้องน้ำอยู่ทั่วทุกภูมิภาคสามารถนำมาเป็นวัตถุดิบ เพื่อผ่านระบบการพัฒนาขึ้นเป็นสินค้าได้ แล้วก็เรียกมันว่า "สินค้าทางการท่องเที่ยว"
สินค้าดังกล่าวสามารถขายให้กับคนไทย แล้วก็ส่งไปขายให้กับคนต่างชาติแดนไกล โดยจุดเด่นของมันคือผู้บริโภคทุกคนจะต้องเดินทางไปยังแหล่งอันเป็นที่ตั้ง จึงจะมีสิทธิบริโภค นี่คือข้อแตกต่างจากสินค้าชนิดอื่น ๆ
เมืองไทยเรามีการนำสินค้าที่ว่านี้ออกมาขายกันนานกว่า 48 ปี จนจะย่างเข้าสู่ทศวรรษที่ 5 ในปีหน้านี้อยู่แล้ว แต่น่าเสียดาย... สินค้าเหล่านี้แม้จะยังคงเสน่ห์ ทว่าวันนี้เพื่อนร่วมโลกจำนวนไม่น้อยต่างกำลังหมางเมิน เพราะไม่มั่นใจในแหล่งบริโภคว่าจะมีความปลอดภัย จากการกระทำของกลุ่มคนบางกลุ่มที่แย่งชิงเวทีแห่งอำนาจ จนกระทบผู้เป็นเจ้าของสินค้าตัวจริงทั้งประเทศ
หนทางเดียวที่เชื่อว่าพอจะขายถ่ายเทสินค้าเหล่านี้เข้าสู่วงจรธุรกิจยามย่ำแย่ได้ ก็คือ การชักชวนคนไทยเรากันเองนี่แหละ ให้หันมาบริโภคเพื่อสร้างบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวขึ้นมาทดแทนผู้บริโภคจากต่างประเทศ ที่จำต้องหดหายไปตามวิกฤติการณ์
ปัจจุบันหากเราหยิบปากกาจิ้มลงไปบนแผนที่แสดงแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่ใน พ.ศ.นี้ ก็พอจะนับเป็นตัวเลขอย่างผิวเผินได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 แห่ง ทั้งที่เป็นธรรมชาติ ประวัติศาสตร์โบราณสถาน กระทั่งถึงแหล่งซึ่งมนุษย์สร้างมันขึ้นมา
กระนั้นก็ตามที...นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดค้นหา แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ๆ ขึ้นมาเป็นสินค้าเสริมจากที่เคยเสนอขายกันมานาน ตัวอย่างที่เห็น ล่าสุดในช่วงขณะท้องฟ้าเหนือแผ่นดินไทยกำลังหมองหม่น แต่ผู้คนในท้องถิ่นกลับไม่ย่อท้อต่อการนำเอาทรัพยากรจากถิ่นเกิดออกมาเสนอขาย แล้วก็สามารถสร้างความฮือฮากันได้ในขณะนี้
แหล่งที่ว่านี้ก็คือ ดินแดนแห่ง "สามพันโบก" ในเขตบ้านสองคอน อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราช ธานี ซึ่งถือ เป็นปรากฏการณ์ปกติทางธรรมชาติ อันเกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกลงเมื่อหลายหมื่นหลายพันปีที่ผ่านมาจนทำให้พื้นผิวบางส่วนกลายเป็นที่ราบ ขณะบางส่วนสูงต่ำเป็นภูผาหิน
สามพันโบกก็เช่นกัน ที่เกิดขึ้นเพราะการยุบตัวของเปลือกโลกลงมาจนเหลือแต่แก่งหิน และต่อมาเมื่อมีน้ำท่วมถึงกระแสน้ำที่พัดกระทบแก่งวันแล้ววันเล่า จึงมีอิทธิพลต่อการกัดกร่อนหินแต่ละแก่ง แต่ละก้อนให้เกิดลักษณะโค้งเว้า โดยไม่จำเป็นต้องมีประติมากรลงไปออกแบบตกแต่งแต่อย่างใด
ครั้นเมื่อถึงฤดูแล้งแห่งปี กระแสแห่งสายน้ำที่เรียกกันว่า "แม่น้ำโขง" ได้เวลาลดระดับลงห่างฝั่ง ทำให้บรรดาแก่งหินที่ว่านั้นกลับกลายเป็นภาพอีกภาพหนึ่งซึ่งปรากฏอยู่บนทางเดิน ของแม่น้ำโขงในช่วง 4 เดือน ระหว่างเมษายนถึงกรกฎาคม
ปรากฏการณ์ที่ผู้คนในท้องถิ่นได้พบเห็นกลางสายน้ำในยามแห้งเหือดเช่นนี้ ทำให้พวกเขาเชื่อกันว่าบริเวณพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 2 ตารางกิโลเมตร มีโบกหินประดุจแอ่งน้ำอยู่ตรงนั้นประมาณสามพันโบก ที่สุดพวกเขาจึงพร้อมใจกันเรียกแก่งที่ธรรมชาติมอบให้ตรงนี้ว่า "สามพันโบก"
อันที่จริงสถานที่แห่งนี้เดิมทีถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับท้องถิ่น ที่คนจากพื้นที่ใกล้เคียงพากันเดินทางเข้าไปสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของมันกันมานาน แต่พอการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) งัดเอากลยุทธ์กระตุ้น คนไทยเที่ยวในประเทศออกมาใช้ ด้วยการจัดทำสปอตโทรทัศน์ชุด "เบิร์ดชวนเที่ยว" โดยใช้ซูเปอร์สตาร์ ธงไชย แมคอินไตย์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ออกเผยแพร่ทั่วประเทศมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
และหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกบรรจุอยู่ในภาพยนตร์โฆษณา ชุดดังกล่าว ก็คือ "สามพันโบก" ซึ่งพี่เบิร์ดกำลังสนุกสนานในการถ่ายรูปอยู่กับเด็ก ๆ ตรงนั้น จึงบันดาลให้แก่งหินสามพันโบก กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกภูมิภาคต่างถามถึง แล้วก็พากันเดินทางไป สู่จุดหมายแห่งนั้นทันที!
การเดินทางไปแก่งหินมหัศจรรย์สามพันโบกออกจะเป็นเรื่องง่าย เพราะสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนเส้นทางท่องเที่ยวหลักของ จ.อุบลราชธานี อันได้แก่ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2112 ซึ่งเชื่อมระหว่างด่านชายแดนไทย-ลาวที่ช่องเม็ก โดย มีแหล่ง ท่องเที่ยวเครือข่ายอยู่รายทางมากมาย อาทิ แม่น้ำสองสี ที่ อ.โขงเจียม อุทยานแห่งชาติผาแต้ม น้ำตกและทุ่งดอกไม้ป่าสร้อยสวรรค์แห่งป่าดงนาทาม น้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกลงรู) และเถาวัลย์ยักษ์ ที่อยู่คู่กันกับ น้ำตกทุ่งนาเมือง
ส่วน แก่งหินสามพันโบกจะอยู่ตรงระยะทางประมาณ 85 กิโลเมตร จากตัว อ.โขงเจียมบนเส้นทางสายดังกล่าว จนเข้าเขตบ้านสองคอน อ.โพธิ์ไทร ให้เลี้ยวขวาเข้าไปตามทางดินลูกรังอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงยังริมฝั่งแม่น้ำโขง ตรง "ไร่เขียวสด" ซึ่งมีทั้งมะขามหวาน และลำไยพันธุ์ "อีดอ" กำลังออกดอกออกผลอยู่ยามนี้
ไร่ที่ว่านี้จะเป็นจุดชุมนุมนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาในวันที่ แม่น้ำโขงแห้งขอดจนเห็นแก่ง โดยเฉพาะวันหยุดเทศกาลต่อเนื่องกันหลายวันนั้น จะมีนักท่องเที่ยวตามกระแส "เบิร์ดชวนเที่ยว" เดินทางเข้าไปไม่ต่ำกว่า วันละ 2,000 คน กับจำนวนรถขนาดเล็กใหญ่วนเวียนเข้า-ออกอีกวันละไม่ต่ำกว่า 100 คัน
ตรงนี้แหละที่เท่ากับเร่งรัดให้ทั้งคนที่เป็นเจ้าของไร่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว ต้องรีบเข้าไปจัดระเบียบพื้นที่ให้เหมาะกับการส่งเสริมขึ้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติแบบยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ด้วยสภาพปัจจุบันกระแสของการเดินทางเข้าไปค่อนข้าง จะฉับพลันทันใด บริเวณภายในไร่เขียวสดซึ่งเป็นที่ดินส่วนบุคคล ก็เริ่มเปิดโอกาสให้ชาวบ้านนำสินค้าตลอดจนอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว บางรายลงทุนถึงขนาดเปิดร้านอาหาร ตั้งโต๊ะ เก้าอี้ลงมือปิ้งย่างกันตรงนั้น
ในส่วนที่เป็นลานกว้างของแก่งหินแต่ละโบก จะเห็นผู้คนลงไปเลือกใช้เป็นสถานที่พักผ่อนกันเต็มไปหมด และตรงส่วนโค้งเว้าของโบกหินที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน จะถูกจำลองเป็นอ่างน้ำธรรมชาติให้ใครต่อใครลงไปว่ายเล่น มีเหมือนกันที่สู้อุตส่าห์หาเอาเรือหงส์ซึ่งให้บริการกันตามสวนสนุก มาบริการเช่าขี่กันถึงตรงนี้?
เฉพาะตรงส่วนทางเดินของสายน้ำโขง เห็นมีเรือยนต์รับจ้างของชาวบ้านแถบนั้นประมาณ 15 ลำ มาคอยบริการนำเที่ยวตามเส้นทางแม่น้ำโขง ขึ้นไปสู่ตอนเหนือบริเวณ "หาดสลึง" ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางไปและกลับประมาณ 1 ชั่วโมง คิดค่าเช่าเที่ยวละ 1,000 บาท โดยสามารถนั่งได้เที่ยวละ 10 คน
สามพันโบกนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่จะรับคนได้แค่ 4 เดือนต่อปี โดยบรรดาแก่งหินทั้งสามพันโบก จะจมหายไปกับกระแสน้ำโขงทันทีที่ย่างเข้าสู่ ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมของทุกปี
หลังจากนั้นคงต้องรอให้ถึงแล้งหน้า...จึงจะได้เห็นแก่งหินครบทั้งสามพันโบกอีกครั้งหนึ่ง!!.
บริสุทธิ์ ประสพทรัพย์
แต่ก็น่าภูมิใจที่เรายังมี ทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งเหนือ พื้นพิภพและใต้ท้องน้ำอยู่ทั่วทุกภูมิภาคสามารถนำมาเป็นวัตถุดิบ เพื่อผ่านระบบการพัฒนาขึ้นเป็นสินค้าได้ แล้วก็เรียกมันว่า "สินค้าทางการท่องเที่ยว"
สินค้าดังกล่าวสามารถขายให้กับคนไทย แล้วก็ส่งไปขายให้กับคนต่างชาติแดนไกล โดยจุดเด่นของมันคือผู้บริโภคทุกคนจะต้องเดินทางไปยังแหล่งอันเป็นที่ตั้ง จึงจะมีสิทธิบริโภค นี่คือข้อแตกต่างจากสินค้าชนิดอื่น ๆ
เมืองไทยเรามีการนำสินค้าที่ว่านี้ออกมาขายกันนานกว่า 48 ปี จนจะย่างเข้าสู่ทศวรรษที่ 5 ในปีหน้านี้อยู่แล้ว แต่น่าเสียดาย... สินค้าเหล่านี้แม้จะยังคงเสน่ห์ ทว่าวันนี้เพื่อนร่วมโลกจำนวนไม่น้อยต่างกำลังหมางเมิน เพราะไม่มั่นใจในแหล่งบริโภคว่าจะมีความปลอดภัย จากการกระทำของกลุ่มคนบางกลุ่มที่แย่งชิงเวทีแห่งอำนาจ จนกระทบผู้เป็นเจ้าของสินค้าตัวจริงทั้งประเทศ
หนทางเดียวที่เชื่อว่าพอจะขายถ่ายเทสินค้าเหล่านี้เข้าสู่วงจรธุรกิจยามย่ำแย่ได้ ก็คือ การชักชวนคนไทยเรากันเองนี่แหละ ให้หันมาบริโภคเพื่อสร้างบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวขึ้นมาทดแทนผู้บริโภคจากต่างประเทศ ที่จำต้องหดหายไปตามวิกฤติการณ์
ปัจจุบันหากเราหยิบปากกาจิ้มลงไปบนแผนที่แสดงแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่ใน พ.ศ.นี้ ก็พอจะนับเป็นตัวเลขอย่างผิวเผินได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 แห่ง ทั้งที่เป็นธรรมชาติ ประวัติศาสตร์โบราณสถาน กระทั่งถึงแหล่งซึ่งมนุษย์สร้างมันขึ้นมา
กระนั้นก็ตามที...นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดค้นหา แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ๆ ขึ้นมาเป็นสินค้าเสริมจากที่เคยเสนอขายกันมานาน ตัวอย่างที่เห็น ล่าสุดในช่วงขณะท้องฟ้าเหนือแผ่นดินไทยกำลังหมองหม่น แต่ผู้คนในท้องถิ่นกลับไม่ย่อท้อต่อการนำเอาทรัพยากรจากถิ่นเกิดออกมาเสนอขาย แล้วก็สามารถสร้างความฮือฮากันได้ในขณะนี้
แหล่งที่ว่านี้ก็คือ ดินแดนแห่ง "สามพันโบก" ในเขตบ้านสองคอน อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราช ธานี ซึ่งถือ เป็นปรากฏการณ์ปกติทางธรรมชาติ อันเกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกลงเมื่อหลายหมื่นหลายพันปีที่ผ่านมาจนทำให้พื้นผิวบางส่วนกลายเป็นที่ราบ ขณะบางส่วนสูงต่ำเป็นภูผาหิน
สามพันโบกก็เช่นกัน ที่เกิดขึ้นเพราะการยุบตัวของเปลือกโลกลงมาจนเหลือแต่แก่งหิน และต่อมาเมื่อมีน้ำท่วมถึงกระแสน้ำที่พัดกระทบแก่งวันแล้ววันเล่า จึงมีอิทธิพลต่อการกัดกร่อนหินแต่ละแก่ง แต่ละก้อนให้เกิดลักษณะโค้งเว้า โดยไม่จำเป็นต้องมีประติมากรลงไปออกแบบตกแต่งแต่อย่างใด
ครั้นเมื่อถึงฤดูแล้งแห่งปี กระแสแห่งสายน้ำที่เรียกกันว่า "แม่น้ำโขง" ได้เวลาลดระดับลงห่างฝั่ง ทำให้บรรดาแก่งหินที่ว่านั้นกลับกลายเป็นภาพอีกภาพหนึ่งซึ่งปรากฏอยู่บนทางเดิน ของแม่น้ำโขงในช่วง 4 เดือน ระหว่างเมษายนถึงกรกฎาคม
ปรากฏการณ์ที่ผู้คนในท้องถิ่นได้พบเห็นกลางสายน้ำในยามแห้งเหือดเช่นนี้ ทำให้พวกเขาเชื่อกันว่าบริเวณพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 2 ตารางกิโลเมตร มีโบกหินประดุจแอ่งน้ำอยู่ตรงนั้นประมาณสามพันโบก ที่สุดพวกเขาจึงพร้อมใจกันเรียกแก่งที่ธรรมชาติมอบให้ตรงนี้ว่า "สามพันโบก"
อันที่จริงสถานที่แห่งนี้เดิมทีถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับท้องถิ่น ที่คนจากพื้นที่ใกล้เคียงพากันเดินทางเข้าไปสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของมันกันมานาน แต่พอการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) งัดเอากลยุทธ์กระตุ้น คนไทยเที่ยวในประเทศออกมาใช้ ด้วยการจัดทำสปอตโทรทัศน์ชุด "เบิร์ดชวนเที่ยว" โดยใช้ซูเปอร์สตาร์ ธงไชย แมคอินไตย์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ออกเผยแพร่ทั่วประเทศมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
และหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกบรรจุอยู่ในภาพยนตร์โฆษณา ชุดดังกล่าว ก็คือ "สามพันโบก" ซึ่งพี่เบิร์ดกำลังสนุกสนานในการถ่ายรูปอยู่กับเด็ก ๆ ตรงนั้น จึงบันดาลให้แก่งหินสามพันโบก กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกภูมิภาคต่างถามถึง แล้วก็พากันเดินทางไป สู่จุดหมายแห่งนั้นทันที!
การเดินทางไปแก่งหินมหัศจรรย์สามพันโบกออกจะเป็นเรื่องง่าย เพราะสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนเส้นทางท่องเที่ยวหลักของ จ.อุบลราชธานี อันได้แก่ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2112 ซึ่งเชื่อมระหว่างด่านชายแดนไทย-ลาวที่ช่องเม็ก โดย มีแหล่ง ท่องเที่ยวเครือข่ายอยู่รายทางมากมาย อาทิ แม่น้ำสองสี ที่ อ.โขงเจียม อุทยานแห่งชาติผาแต้ม น้ำตกและทุ่งดอกไม้ป่าสร้อยสวรรค์แห่งป่าดงนาทาม น้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกลงรู) และเถาวัลย์ยักษ์ ที่อยู่คู่กันกับ น้ำตกทุ่งนาเมือง
ส่วน แก่งหินสามพันโบกจะอยู่ตรงระยะทางประมาณ 85 กิโลเมตร จากตัว อ.โขงเจียมบนเส้นทางสายดังกล่าว จนเข้าเขตบ้านสองคอน อ.โพธิ์ไทร ให้เลี้ยวขวาเข้าไปตามทางดินลูกรังอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงยังริมฝั่งแม่น้ำโขง ตรง "ไร่เขียวสด" ซึ่งมีทั้งมะขามหวาน และลำไยพันธุ์ "อีดอ" กำลังออกดอกออกผลอยู่ยามนี้
ไร่ที่ว่านี้จะเป็นจุดชุมนุมนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาในวันที่ แม่น้ำโขงแห้งขอดจนเห็นแก่ง โดยเฉพาะวันหยุดเทศกาลต่อเนื่องกันหลายวันนั้น จะมีนักท่องเที่ยวตามกระแส "เบิร์ดชวนเที่ยว" เดินทางเข้าไปไม่ต่ำกว่า วันละ 2,000 คน กับจำนวนรถขนาดเล็กใหญ่วนเวียนเข้า-ออกอีกวันละไม่ต่ำกว่า 100 คัน
ตรงนี้แหละที่เท่ากับเร่งรัดให้ทั้งคนที่เป็นเจ้าของไร่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว ต้องรีบเข้าไปจัดระเบียบพื้นที่ให้เหมาะกับการส่งเสริมขึ้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติแบบยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ด้วยสภาพปัจจุบันกระแสของการเดินทางเข้าไปค่อนข้าง จะฉับพลันทันใด บริเวณภายในไร่เขียวสดซึ่งเป็นที่ดินส่วนบุคคล ก็เริ่มเปิดโอกาสให้ชาวบ้านนำสินค้าตลอดจนอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว บางรายลงทุนถึงขนาดเปิดร้านอาหาร ตั้งโต๊ะ เก้าอี้ลงมือปิ้งย่างกันตรงนั้น
ในส่วนที่เป็นลานกว้างของแก่งหินแต่ละโบก จะเห็นผู้คนลงไปเลือกใช้เป็นสถานที่พักผ่อนกันเต็มไปหมด และตรงส่วนโค้งเว้าของโบกหินที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน จะถูกจำลองเป็นอ่างน้ำธรรมชาติให้ใครต่อใครลงไปว่ายเล่น มีเหมือนกันที่สู้อุตส่าห์หาเอาเรือหงส์ซึ่งให้บริการกันตามสวนสนุก มาบริการเช่าขี่กันถึงตรงนี้?
เฉพาะตรงส่วนทางเดินของสายน้ำโขง เห็นมีเรือยนต์รับจ้างของชาวบ้านแถบนั้นประมาณ 15 ลำ มาคอยบริการนำเที่ยวตามเส้นทางแม่น้ำโขง ขึ้นไปสู่ตอนเหนือบริเวณ "หาดสลึง" ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางไปและกลับประมาณ 1 ชั่วโมง คิดค่าเช่าเที่ยวละ 1,000 บาท โดยสามารถนั่งได้เที่ยวละ 10 คน
สามพันโบกนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่จะรับคนได้แค่ 4 เดือนต่อปี โดยบรรดาแก่งหินทั้งสามพันโบก จะจมหายไปกับกระแสน้ำโขงทันทีที่ย่างเข้าสู่ ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมของทุกปี
หลังจากนั้นคงต้องรอให้ถึงแล้งหน้า...จึงจะได้เห็นแก่งหินครบทั้งสามพันโบกอีกครั้งหนึ่ง!!.
บริสุทธิ์ ประสพทรัพย์
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=486&contentID=5316
See all the ways you can stay connected to friends and family
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น