บ.ซีแคนูไทยแลนด์ จำกัด บ้าน ร๊อคการ์เด้นท์ 125/461 บ้านทุ่งคา - บ้านสะปำ ต. รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทรศัพท์ 076 528839 - 40 โทรสาร 076 258841 อีเมล์: info@seacanoe.net เว็บไซต์ http://www.seacanoe.net/ Please visit my blog.Thank you so much. http://www.sanamluang.bloggang.com / http://tham-manamai.blogspot.com / http://www.parent-youth.net/ http://www.tzuchithailand.org/ http://www.pdc.go.th/ http://www.presscouncil.or.th / http://thainetizen.org/ http://www.ictforall.org

"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Bookmark and Share
Blognone

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

นับแกะ...ชิมกีวี ที่...เบย์ ออฟ เพลนตี้...นิวซีแลนด์

วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11425 มติชนรายวัน


นับแกะ...ชิมกีวี ที่...เบย์ ออฟ เพลนตี้...นิวซีแลนด์


คอลัมน์ บันทึกเดินทาง

โดย สุทธาสินี จิตรกรรมไทย




อรุณรุ่งที่เชิงเขาเมาท์.เมาน์กานุย

ฝูงแกะแห่งเมาท์.เมาน์กานุย

"นึกถึงอะไรในนิวซีแลนด์?"

ถ้าไม่ใช่ภาพยนตร์ไตรภาคสุดฮิต "เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์" ซึ่งใช้ความงามที่ธรรมชาติให้นิวซีแลนด์มาแบบเนื้อๆ เน้นๆ เป็นฉากถ่ายทำ ก็เป็นสารคดีที่ "เฮเลน คลาร์ค" ทุ่มสุดตัวเป็นไก๊ด์พาทัวร์ทั่วประเทศด้วยตนเองขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ยังมีประชากร "แกะ" ที่ว่ากันว่ามีถึง 45 ล้านตัว ส่วนวัวมีราว 9 ล้านตัว ขณะที่ประชากรมนุษย์มีเพียง 4 ล้านกว่าคน เท่านั้น จนชาวนิวซีแลนด์บอกกันขำๆ ว่า ปัญหามลพิษในนิวซีแลนด์เกิดจากก๊าซที่มาจากสัตว์มากกว่าก๊าซที่มาจากรถยนต์เสียอีก

"นิวซีแลนด์ยังมี "กีวี" เป็นเหมือนผลไม้ประจำชาติ"

มุ่งสู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอ๊อคแลนด์ ราว 3 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึง "เบย์ ออฟ เพลนตี้" หนึ่งในภูมิภาคของแดนกีวี

"ที่นี่สภาพภูมิอากาศดี ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ดินก็เป็นดินภูเขาไฟ น้ำท่าก็อุดมสมบูรณ์ จึงไม่แปลกที่ในจำนวนกีวีที่นิวซีแลนด์ปลูกได้และส่งออกจำหน่ายทั่วโลก...80 เปอร์เซ็นต์ มาจากเบย์ ออฟ เพลนตี้"

"เมื่อก่อนผู้ปลูกกีวีเจอปัญหากีวีไม่ได้คุณภาพ ราคาก็ตกต่ำ แข่งกันเองไม่พอยังต้องแข่งกับกีวีประเทศอื่น เรียกว่าตกระกำลำบากมาก เจ้าของไร่กีวีทนไม่ไหวจึงรวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ รัฐบาลจึงตั้งบริษัทขึ้นในปี 1997 ให้ความรู้กับเกษตรกรเรื่องการปลูก ดูแลผลผลิตและหาตลาดให้ ตอนนี้กีวีนิวซีแลนด์ส่งออกไปมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลกแล้ว" "แดเนียล แมธีสัน" ชายหนุ่มสายเลือดนิวซีแลนด์ เล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจ ระหว่างเดินเที่ยวเล่นในไร่กีวี

ไร่กีวีที่มีอยู่มากมายในพื้นที่เบย์ ออฟ เพลนตี้



บริษัทที่รัฐบาลตั้งขึ้นก็คือ "เซสปรี อินเตอร์เนชั่นแนล" ที่แดเนียลทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่นั่นเอง

กีวีที่ปลูกในพื้นที่เบย์ ออฟ เพลนตี้ มีทั้งกีวีเขียวและกีวีทอง

เปลือกของกีวี 2 สีเหมือนๆ กันคือเป็นสีน้ำตาล แต่ถ้าสังเกตดีๆ กีวีเขียวจะมีขนที่ผลเยอะและมีเปลือกหนากว่ากีวีทอง

ใครที่ชอบรสเปรี้ยวนิดๆ อาจติดใจกีวีเขียว ส่วนใครที่ติดหวานหน่อยๆ ต้องกีวีทอง

ฤดูกาลเก็บกีวีอยู่ระหว่างเดือนเมษายน-สัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน ซึ่งค่าจ้างในการเก็บจะขึ้นกับความ "มือเบา" ในการเด็ดกีวีจากขั้วแบบไม่ให้ผลช้ำ

เพลินกับการเด็ดกีวี-ชิมกีวีจนหนำใจ ตกเย็นก็เข้าที่พักในเมือง "เมาท์.เมาน์กานุย" เป็น "เซิร์ฟ ซิตี้" เมืองสวรรค์ของนักโต้คลื่น

ถึงนักท่องเที่ยวจะเยอะ แต่ดูเหมือนว่าเมืองเมาท์.เมาน์กานุยจะเข้านอนเร็วผิดคาด เพราะเพียงแค่ความมืดโรยตัวเข้าห่มคลุม ร้านรวงส่วนใหญ่ในเมืองก็ปิดเสียแล้ว

เมาท์.เมาน์กานุยสูงเพียง 230 เมตรเท่านั้น ชาวเมืองจึงนิยมวิ่งออกกำลังกายขึ้น-ลง หรือไม่ก็เดินเล่นขึ้นไปถึงยอดเขาที่มองเห็นวิวได้เกือบทั้งเมือง

เมาท์.เมาน์กานุย

วัวที่เห็นได้ทั่วไปในนิวซีแลนด์



ตื่นแต่เช้าตรู่ ขยับเสื้อกันหนาวให้กระชับตัวพร้อมรับอุณหภูมิ 13 องศา สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งขึ้นเมาท์.เมาน์กานุย

ถึงจะไปไม่ถึงยอดเขาด้วยเงื่อนไขทางเวลา แต่ก็คุ้มที่ได้เห็นแสงอาทิตย์ยามเช้าแตะต้องผืนทะเลสีฟ้าครามเป็นประกายวิบวับจากระหว่างทางขึ้นเมาท์.เมาน์กานุย

สายๆ เดินทางไป ""สปริง โลดเด็ด ฟัน พาร์ค"" เมือง "เท ปูกี้" ขึ้นเฮลิคอปเตอร์-ลงเรือด่วน ชมธรรมชาติสวยๆ ของเบย์ ออฟ เพลนตี้

คิดค่านั่งเฮลิคอปเตอร์ 105 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (2,300 กว่าบาท) ต่อคน ส่วนค่าลงเรือด่วน หากเป็นผู้ใหญ่ตกคนละ 95 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ราว 2,100 บาท) เด็กอยู่ที่ 45 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ประมาณ 1,000 บาท)

รัดเข็มขัดนิรภัย ใส่ที่ครอบหูเรียบร้อย เฮลิคอปเตอร์ก็พาห่างจากพื้นดินไปเรื่อยๆ มองลงมาเห็นวัวเป็นแค่จุดขาวดำเล็กๆ เท่านั้น

พื้นที่สีเขียวที่เห็นสุดลูกหูลูกตาคือไร่กีวีเป็นแปลงๆ มีต้นไม้สูงปลูกเป็นแนวรั้วกั้นระหว่างไร่ ตอกย้ำความเป็นพื้นที่ปลูกกีวีใหญ่สุดของนิวซีแลนด์ให้น่าเชื่อถือเข้าไปอีก

ตื่นตาตื่นใจอยู่บนฟ้าเกือบ 10 นาที แล้วก็เปลี่ยนเป็นลงเรือยนต์ลำเล็กสีแดงสด เตรียมล่องแม่น้ำ "ไคทูน่า" ความยาวของแม่น้ำคือ 65 กิโลเมตร แต่เปิดให้ล่องไป-กลับ รวม 25 กิโลเมตร

ก่อนออกเรือ แดเนียล-พนักงานขับเรือบอกว่าจะทำ "สปิน" เล่นเอาใจเต้นตึกตัก เพราะไม่รู้ว่าจะเทใครลงแม่น้ำหรือเปล่า..ยิ่งหนาวๆ อยู่ด้วยสิ!!

แล้วเรือก็ทะยานออกจากท่าอย่างรวดเร็ว บางช่วงบางตอนแดเนียลก็หมุนพวงมาลัยให้เรือเลี้ยวเกือบ 360 องศา เพื่อทำสปิน แต่ละคนเลยจับราวไว้แน่น พร้อมปล่อยเสียงกรี๊ดแบบไม่เกรงใจใคร

2 ข้างทางของแม่น้ำไคทูน่าเป็นป่าทึบ มีต้นไม้เล็ก-ใหญ่ขึ้นหนาแน่นเบียดเสียด แต่ไม่วังเวงเพราะมีเสียงนกร้องประสานกันดังขึ้นเป็นพักๆ

"เชื่อมั้ยครับว่าป่าอยู่ในสภาพนี้มาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว คนนิวซีแลนด์ไม่เข้าไปยุ่มย่าม เพราะป่าเป็นต้นกำเนิดชีวิต" แดเนียลบอกระหว่างขับเรือ ก่อนชะลอความเร็วเรือลง ปล่อยเรือให้จอดนิ่งอยู่หน้าน้ำตกใหญ่สักพัก..

"แวบหนึ่งเผลอคิดไปว่าตัวเองเป็น "ฮอบบิท" ในเรื่อง "เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์" กำลังท่องป่าในดินแดน "มิดเดิล เอิร์ธ""

เสียดายที่ไม่มีใครพกกล้องติดตัวไปด้วย เพราะแดเนียลเตือนไว้ตั้งแต่แรกว่าเวลาสปินน้ำอาจซัดขึ้นมาบนเรือได้ เลยไม่มีภาพเป็นหลักฐานว่าธรรมชาติที่เห็นสวยงามสมบูรณ์แค่ไหน

"เก็บเกี่ยวความประทับใจมาเพียบ!..กับทริปนิวซีแลนด์ครั้งแรกในชีวิต"

หน้า 23

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com

รายการบล็อกของฉัน