ใช่เพียงแหล่งรวมนักชอปในย่านสยามจนถึงแยกราชประสงค์ จะมีแต่โลกของการจับจ่าย เมื่อเดินเชื่อมกันระหว่างศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ใจกลางเมืองทั้ง 2 แห่ง ยังคงปรากฏพระอารามหลวงชั้นตรี อย่าง วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร แทรกตัวอวดความร่มรื่นให้ความสงบเย็นทั้งกาย-ใจ วัดแห่งนี้ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2400 พร้อมกับการสร้างพระราชวังปทุมวัน (วังสระปทุม) เพื่อให้เป็นรมณียสถานยามเสด็จประพาสนอกพระนคร และพระราชทานแด่ สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระราชมารดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ทรงโปรดให้ขุดสระและปลูกบัวโดยรอบ เพื่อให้พระสงฆ์พายเรือมารับบิณฑบาตในเขตพระราชฐาน ซึ่งปัจจุบันแม้สระบัวนานาพันธุ์ พร้อมด้วยภูมิสถาปัตย์อันวิจิตร จะถูกถมเป็นที่ราบเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งพระอุโบสถ พระเจดีย์ พระวิหารและต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตั้งตระหง่านสง่างามมาต่อเนื่องยาวนาน เป็นที่มาโดยสังเขปเกี่ยวกับพระอารามสำคัญในประวัติศาสตร์ ชนิดราชวรวิหารแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการบูรณะพระอุโบสถให้คงสภาพสมบูรณ์ตาม โครงการบูรณะพระอุโบสถ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ด้วยความร่วมมือของ กรมศิลปากรและกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด นำโดย บุษบา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร บจก.เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นการตอบแทนสังคม และชวนคนทุกวัยให้ร่วมกันสืบทอดมรดกอันทรงคุณค่า กิจกรรมดีๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้อย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2554 อาทิ การร่วมทำกิจกรรมในทุกๆ วันสำคัญทางศาสนาการ จัดประกวดถ่ายภาพ-จัดประกวดวาดภาพวัดปทุมวนารามฯ และ การจัดอุปสมบทหมู่ ก็จะช่วยให้การเข้าวัด เพื่อเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆ จากพระศาสนาไปปรับใช้ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่จะไม่เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป ถ้าหากจะให้คนไทยในปัจจุบันรู้สึกใกล้ชิดกับวัดมากยิ่งขึ้น พระราชบัณฑิต คุตตจิตโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเลขานุการวัดปทุมวนารามฯ ยังได้เล่าเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาวัดแห่งนี้ นับว่ามีความเกี่ยวข้องโดยตรงต่อพระญาติผู้สืบเชื้อสายตรงจาก สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ผู้สืบพระราชปณิธานในการบูรณะวัดปทุมวนารามฯ ต่อจากสมเด็จพระปิยะมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา (พระราชมารดา) ผู้ทรงเป็นอุบาสิกาวัดปทุมวนารามฯ ที่มีบทบาทสำคัญต่อการทำนุบำรุง บูรณะวัดแห่งนี้มาโดยตลอดพระชนม์ชีพ ตามที่ปรากฏไว้ในหลักฐานว่า ในอดีต เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินจะทรงรับเป็นองค์ประธานในการซ่อมแซมวัดวาพระอารามหลวงต่างๆ “การที่พระราชสรีรางคารของพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก มาประดิษฐาน ณ วัดปทุมวนารามนั้น ตามที่ปรากฏเป็นหลักฐานก็ดี หรือ ตามที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เจ้าฟัากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตรัสเล่าไว้ก็ดีว่า เมื่อครั้งที่สมเด็จพระราชบิดาทรงประชวรหนัก แต่ยังทรงมีพระสติสัมปชัญญะดีอยู่ พระองค์ทรงกราบทูลพระราชชนนีว่า... “ถ้าลูกแดงเป็นอะไรลงไป ขอให้สมเด็จแม่ดัดแปลงโรงเรียนที่สร้างไว้ แล้วนำอัฐิอังคารของลูกแดงไปไว้ที่นั่น เผื่อ สังวาลย์ (สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งในคราวนั้นทรงดำรงฐานันดร เป็น หม่อมสังวาลย์ มหิดล ณ อยุธยา) และลูกๆ (ขณะนั้นทุกพระองค์ทรงดำรงฐานันดรศักดิ์ เป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ) จะได้ไปกราบไหว้ที่นั่น” เพื่อเป็นสถานที่ส่วนพระองค์ที่จะเสด็จมาทรงบำเพ็ญพระกุศลแบบครอบครัว โดยไม่ใช่เป็นพระราชพิธี ตามเจตนารมย์ขององค์ผู้ทรงสร้างสถูปเจดีย์นี้ แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยในพระชายา พระธิดาและพระโอรส ด้วยทรงเกรงว่าจะยากลำบากในการไปสักการะพระราชสรีรางคาร ณ สุสานหลวง วัดราชบพิธ” นอกจากนี้ วัดปทุมวนารามฯ ยังเป็นที่บรรจุอัฐิพระวรกายของผู้สืบสายตรงจากสมเด็จพระพันวัสสา อัยยิกาเจ้า อาทิ พระบรมราชสรีรางคารส่วนหนึ่งของสมเด็จพระบรมราชชนก,พระทนต์ของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระทนต์ของสมเด็จพระราชปิตุจฉาเจ้าฟ้าวไลยอลงค์กรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินทร พระตโจ(หนัง) ส่วนพระเศียรของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอนันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (ร.8) และพระอัฐิส่วนหนึ่งของพระโสณี(สะโพก) ของสมเด็จพระศรีนครนทราบรมราชชนนี เพื่อให้พระญาติในชั้นลูกหลานได้มากราบไหว้ ณ พระสถูปเจดีย์ ที่สมเด็จพระพันวัสสาฯ ทรงสร้างขึ้นตรงบริเวณหน้ามุกด้านทิศตะวันออกของโรงเรียนพระปริยัติธรรมภายในวัดด้วย อีกทั้งความเกี่ยวข้องกับ ราชสกุลมหิดล ของวัดปทุมวนารามฯ ยังจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์อีกครั้ง เมื่อวัดแห่งนี้ได้รับพระบรมราชานุญาต โปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ฉัตร” องค์ที่ใช้กางกั้นเหนือพระจิตกาธาน ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เพื่อนำมาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถ เพื่อถวายพระเกียรติสืบไปในฐานะที่ทรงเป็นองค์ปุถัมภ์วัดปทุมวนารามราชวรวิหารมาโดยตลอด ตั้งแต่ครั้งที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชนนียังทรงพระชนม์อยู่ ด้าน คุณชายอดัม - ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล ซึ่งปกติเป็นผู้หนึ่งที่รักการถ่ายภาพคุ้นเคยกับวัดวาอารามและสนใจธรรมะอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เมื่อต้องรับหน้าที่เชิญชวนให้คนรุ่นใหม่แวะเวียนเข้ามาใกล้ชิดธรรมะผ่านกิจกรรมการถ่ายภาพ ก็ยังแนะด้วยว่า การถ่ายภาพเป็นเรื่องไม่ยาก ถ่ายได้ตามใจตามมุมมองของแต่ละคน แต่ถ้าอยากได้มุมใหม่ๆ เพื่อสื่อความหมายของความเป็นวัดปทุมวนารามฯ อันร่มรื่น สงบเย็นในท่ามกลางความเจริญและแหล่งชอปปิ้ง ก็น่าจะดึงดูดให้ภาพนั้นมีคุณค่าทางจิตใจต่อผู้พบเห็น สำคัญที่สุด โดยเฉพาะคนถ่ายเองก็จะได้ซึมซับพระศาสนา วัดวาอารามและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ อย่างเหมาะสมกับไลฟสไตล์คนรุ่นใหม่ได้อีกรูปแบบหนึ่ง
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น