บ.ซีแคนูไทยแลนด์ จำกัด บ้าน ร๊อคการ์เด้นท์ 125/461 บ้านทุ่งคา - บ้านสะปำ ต. รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทรศัพท์ 076 528839 - 40 โทรสาร 076 258841 อีเมล์: info@seacanoe.net เว็บไซต์ http://www.seacanoe.net/ Please visit my blog.Thank you so much. http://www.sanamluang.bloggang.com / http://tham-manamai.blogspot.com / http://www.parent-youth.net/ http://www.tzuchithailand.org/ http://www.pdc.go.th/ http://www.presscouncil.or.th / http://thainetizen.org/ http://www.ictforall.org

"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Bookmark and Share
Blognone

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

สวิตเซอร์แลนด์แดนในฝัน ชม"เอเดิลไวส์" จูบหิมะบนเขา"นิรนาม"

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11369 มติชนรายวัน


สวิตเซอร์แลนด์แดนในฝัน ชม"เอเดิลไวส์" จูบหิมะบนเขา"นิรนาม"


คอลัมน์ บันทึกเดินทาง

โดย อรวิมล พิมพ์จันทร์




บ้านหลังน้อยปกคลุมด้วยหิมะระหว่างทางขึ้นเขา

Edelweiss, Edelweiss

Every morning you greet me

Small and white, clean and bright

You look happy to meet me

Blossom of snow may you bloom and grow

Bloom and grow forever

Edelweiss, Edelweiss

Bless my homeland forever

บทเพลงข้างต้นมีชื่อเรียกขานว่า "เอเดิลไวส์" (Edelweiss) ประพันธ์โดย Rodgers and Hammerstein หลายคนอาจยังนึกไม่ออก แต่คงรู้สึกคุ้นๆ ว่าเคยได้ยินมาจากไหน ถ้าเฉลยว่าเป็นเพลงประกอบภาพยนต์อมตะ เรื่อง "The sound of music" ก็คงร้องอ๋อกันเป็นแถว

"เอเดิลไวส์" มาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวครั้งนี้เป็นเพราะ "การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย" ได้จัดงานมหกรรมธุรกิจด้านการท่องเที่ยวครั้งสำคัญของปี อย่างงาน "ITB Berlin" ทำให้มีโอกาสไปสัมผัสอากาศหนาวกับเขาบ้าง

นอกจากจะไปกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีแล้ว ยังได้ตามไปดูงานโรดโชว์ของ ททท.ที่ประเทศออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตามลำดับ

เมื่อไปถึง 2 ประเทศหลังนี่เอง ส่งผลให้ได้ยินคำว่า "เอเดิลไวส์" บ่อยหู เพราะประชาชนของทั้ง 2 ประเทศดูเหมือนว่าจะมีความภูมิใจกับดอกไม้ประเภทนี้มาก

ตอนแรกก็งงๆ ว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่เมื่อถูกฝรั่งใจดีขับร้องเพลงให้ฟัง ถึงกับทำให้อึ้ง เพราะเพิ่งรู้ความหมายของคำว่า "เอเดิลไวส์" ที่เคยได้ยินมาเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วซึ่งไม่เคยคิดจะเปิดพจนานุกรมภาษาอังกฤษดูมาก่อนเลย

ดอกไม้ชนิดนี้ ถ้าพูดไปก็เหมือนเป็นดอกไม้ประจำชาติของทั้ง 2 ประเทศไปแล้ว ไม่ว่าจะมองไปทางไหน จะเป็นบนเหรียญยูโรของประเทศออสเตรีย หรือบนสินค้าที่ระลึกสักชิ้น ถ้าสังเกตให้ดี จะเห็นว่ามีรูปดอกนี้มีแซมอยู่ด้วยเสมอ แม้กระทั่งบนมีดยี่ห้อดัง ราคาแพงหูฉี่ของสวิสเอง ยังมีการทำรุ่น Edelweiss ออกมา น่ารักถูกใจผู้หญิงยิ่งนัก

วิวที่มองเห็นจากยอดเขา "ริกิคุลม์"

รถรางสีแดงที่นำขึ้นสู่ยอดเขา

ดอกเอเดิลไวส์ในอดีต



" "เอเดิลไวส์" เป็นดอกไม้สีขาวใบขาวจำพวก Leontopodium alpinum พบมากบนภูเขาแอลป์ ดูคล้าย "ดอกมะลิ" ของบ้านเรา แต่แท้จริง กลีบสีขาวที่เห็นคือ "ใบ" ของมัน ขณะที่ตัวดอกจริงๆ คือที่อยู่ตรงกลางเป็นสีเหลืองนั่นเอง"

เมื่อรู้ว่ามันหน้าตาเป็นอย่าง ก็รู้สึกตะหงิดๆ ตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น เพราะต้องการเห็นดอกของจริงดูบ้าง จึงแอบกระซิบถาม "มิสเตอร์บีท" (Mr.Beat) คนขับรถนำเที่ยวชาวสวิส ผู้มีความรู้ดี-ดีกรีดอกเตอร์จากเมืองลุงแซม

"ยูเคยเห็นดอกเอเดิลไวส์ของจริงไหม ....ไออยากเห็นบ้าง"

"มิสเตอร์บีท" ซึ่งชื่อมีความหมายว่า "ความสุข"....หันขวับมาตอบว่า "ผมก็ไม่เคยเห็น ทั้งชีวิตนี้ (อายุประมาณ 40 กว่าๆ) ยังไม่เคยได้เห็นเลย เพราะหาดูได้ยากมาก ดอกชนิดนี้มักขึ้นอยู่ตามภูเขา มีคนเล่ามาว่า เมื่อก่อนมีอยู่เต็มไปหมด แต่ช่วงหลังมีคนรู้จักมากขึ้น จึงถูกเด็ดเก็บไปเป็นที่ระลึกคนละดอกสองดอก จนตอนนี้แทบไม่เหลือหลอ แต่ยังไม่ถึงกับสูญพันธุ์"

"เมื่อมันขึ้นมาปุ๊บ หากใครเห็นก็จะรีบเด็ดเก็บไว้ก่อน ไม่เผื่อให้คนอื่นได้เห็นบ้าง แม้ตอนนี้กฎหมายจะเข้มงวดมาก ถ้าถูกจับได้ละก็ โดนโทษหนักแน่" มิสเตอร์บีท กล่าวพร้อมส่ายหัวอย่างเซ็งๆ จึงได้แต่แอบคิดในใจว่า "คนมือบอนแบบนี้ นึกว่ามีแต่ในบ้านเรา ที่แท้ฝรั่งเมืองศิวิไลซ์ ก็เป็นเหมือนกัน"

เหรียญ 2 เซนต์ของประเทศออสเตรีย มีรูปดอกเอเดิลไวส์อยู่ด้านหลัง

มีดพับลายดอกเอเดิลไวส์



ไม่นานนัก มิสเตอร์บีทผู้มากด้วยความรู้ก็แนะนำให้คณะของเรา ขึ้นไปชมภูเขาแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ด้านบนปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวปุกปุย ตามคำเรียกร้องของคนไทยที่อยากสัมผัสหิมะอย่างเต็มอยาก ด้วยเวลาท่องเที่ยวอันจำกัด เขาจึงพาไปยังยอดภูเขาที่ใกล้ที่สุด ทว่าไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าใดนัก ใช้เวลาเดินทางจากเมืองซูริคไม่ถึงชั่วโมงดี ก็พาเราไปถึง และจัดการซื้อตั๋วรถรางสาธารณะเพื่อเดินทางขึ้นไปสู่ยอด (รถรางดังกล่าวเป็นแบบคนสวิสใช้เดินทางในชีวิตประจำวันและไม่ได้มีไว้สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ)

ในขบวนรถมีคนไม่มากนัก นอกจากคณะของเรา มีคู่รักชาวญี่ปุ่น 1 คู่ ชาวสวิสและเด็กน้อยซุกซนอีก 2-3 คน ที่นั่งรถรางเพื่อกลับบ้านจากโรงเรียน ระหว่างทางมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นภาพทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับภาพจากโปสการ์ดหรือปฏิทิน แม้จะไม่ใช่เซียนด้านการถ่ายรูป แต่เมื่อส่องกล้องไปทางไหน ภาพมีปรากฏออกมาด้วยงดงามแบบชนิด 360 องศา

เมื่อไปได้สักครึ่งทาง อยู่ๆ รถรางก็หยุดกึ๊กลงเพื่อให้เด็กน้อยเดินลงป้าย พวกเราโบกมือบ๊ายบาย และได้รับการโบกมืออำลากลับมาพร้อมกับรอยยิ้มใสซื่อ ก่อนที่เด็กน้อยจะเดินไปตามแนวเขาเพื่อกลับบ้าน มองไม่เห็นเลยว่า บ้านหลังนั้นตั้งอยู่ตรงไหนในป่าสนแห่งนี้ หรือเด็กน้อยคนนั้นจะเดินถึงบ้านได้อย่างไร โดยที่ไม่กลิ้งหลุนๆ ลงไป

ครืด....... ครืด...... ครืด....... รถรางออกเดินทางต่อจนถึงยอดเขา ที่มีชื่อว่า "ริกิคุลม์" (Rigi Kulm) ตั้งอยู่ที่เมืองวิทซ์นาว (Vitznau) ริกิคุลม์เป็นยอดเขาหนึ่งในหลายร้อยยอดของเทือกเขาแอลป์ เป็นสถานที่ที่ชาวสวิสท้องถิ่นนิยมมาเล่นสกี ตามทางขึ้นเขาจะมีบ้านและโรงแรมที่พักเล็กๆ อยู่บ้างประปราย แซมไปด้วยต้นไม้และหิมะหนอเตอะ

บนยอดเขามีร้านขายของที่ระลึกและเครื่องดื่มเล็กๆ ตั้งอยู่ เมื่อมองออกไปจะเห็นยอดเขาอื่นๆ เรียงซ้อนกันแบบเทือกยาวสุดลูกหูลูกตา

เมื่อขึ้นไปถึงยอดแล้ว แนะนำให้ซื้อโกโก้หรือกาแฟร้อนสักถ้วยมานั่งจิบ แล้วจะสามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและอิ่มเอมในหัวใจอย่างแท้จริง แต่อย่าพกธนบัตรใบใหญ่ๆ ของสวิส จำพวกใบละ 1,000 หรือ 500 ฟรังก์ ไปใช้จ่ายในร้านแบบนี้เสียทีเดียวละ

"เพราะจากประสบการณ์ล่าสุด พบว่าร้านค้าทั่วไปในในสวิตเซอร์แลนด์ช่วงนี้ไม่มีที่ไหนรับธนบัตรใบใหญ่กว่า 200 ฟรังก์ แม้กระทั่งแวะซื้อในร้านทานด่วน ระดับอินเตอร์อย่าง "แมคโดนัลด์" เองก็ยังไม่รอดเช่นกัน จะแลกหรือใช้ได้เฉพาะในธนาคารหรือร้านขายนาฬิกาชื่อดังเท่านั้น"

ด้วยความสงสัยว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ได้หันไปถามที่ปรึกษาใกล้ตัวอย่าง "มิสเตอร์บีท" อีกครั้ง มิสเตอร์บีทให้คำตอบว่า เป็นเพราะตอนนี้ชาวสวิสไม่มั่นใจในธนบัตรใบใหญ่ "ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม"

จึงต้องวางมาตรการป้องกันตัวเองโดยการปฏิเสธไว้ก่อน เมื่อถามต่อว่า เป็นอย่างนี้มานานหรือยัง ก็ได้ทราบว่าอาการนี้เป็นมาพักใหญ่ๆ แล้วไม่รู้ว่ากระแสจะซาลงไปเมื่อไหร่เหมือนกัน

"ดูสิ....ขนาดประเทศผู้นำด้านการเงินและการธนาคารของโลก ก็ยังตื่น "แบงก์พันปลอม" เหมือนบ้านเราไม่มีผิด"

หน้า 23
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01tra01260452&sectionid=0139&day=2009-04-26

Rediscover Hotmail®: Get e-mail storage that grows with you. Check it out.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com

รายการบล็อกของฉัน