บ.ซีแคนูไทยแลนด์ จำกัด บ้าน ร๊อคการ์เด้นท์ 125/461 บ้านทุ่งคา - บ้านสะปำ ต. รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทรศัพท์ 076 528839 - 40 โทรสาร 076 258841 อีเมล์: info@seacanoe.net เว็บไซต์ http://www.seacanoe.net/ Please visit my blog.Thank you so much. http://www.sanamluang.bloggang.com / http://tham-manamai.blogspot.com / http://www.parent-youth.net/ http://www.tzuchithailand.org/ http://www.pdc.go.th/ http://www.presscouncil.or.th / http://thainetizen.org/ http://www.ictforall.org

"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Bookmark and Share
Blognone

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

บทเรียนจาก “มาบตาพุด”รัฐบาลอย่าเลื่อน “Euro IV”

บทเรียนจาก "มาบตาพุด"รัฐบาลอย่าเลื่อน "Euro IV"
ข่าววันที่ 18 มีนาคม 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

บทเรียนจาก "มาบตาพุด"

รัฐบาลอย่าเลื่อน "Euro IV"

      มาแล้วครับ ผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ เรื่องนี้แม้จะดูเป็นเรื่องไม่ใหญ่สำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับผมแล้ว ถือเป็นเรื่องใหญ่ในระยะยาว เพราะเป็นเรื่อง สุขภาพของประชาชนในช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมกันขนาดใหญ่ จนเกิด มลภาวะไปทั่วในย่านอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ

    ล่าสุดคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้ประกาศให้ มาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษ หลังจากเกิดการต่อสู้กันมาอย่างยาวนานระหว่างชาวบ้านที่ต้องการมีสุขภาพดีกับหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ดูแลชาวิบ้านละเลยการทำหน้าที่ของตนเอง

    อย่างที่ทราบกันดีว่า แถบชายทะเลตะวันออกเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ ประชาชนส่วนใหญ่มีรายได้จากประมง และการท่องเที่ยว

    แต่เมื่อมีการนำ นิคมอุตสาหกรรมไปลงในภาคตะวันออก ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในระยะยาวจะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ตลอดจนกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยว ที่ประชาชนเคยได้รับ ให้ลดน้อยลงไป

    เมื่อผลสรุปออกมาชัดเจนแล้วว่า คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม ได้ประกาศให้ มาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษ แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลเองได้ตระหนักถึงสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ รวมไปถึงสุขภาพของประชาชน มากกว่าจะเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ไม่มีความยั่งยืน

    ที่ยกตัวอย่าง มาบตาพุดมาให้เห็น ก็เพราะมีข่าวชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจคือ การที่ผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมัน ออกมาไล่บี้รัฐบาล เพื่อให้เร่งสรุปข้อเสนอ เลื่อนใช้น้ำมัน มาตรฐาน ยูโร 4 ภายในเดือนมี.ค. นี้

    สาเหตุที่ โรงกลั่นต้องการเลื่อนการใช้มาตรฐาน ยูโร 4 "คุณชายน้อย เผื่อนโกสุม" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์ และการกลั่น (พีทีทีเออาร์) ในฐานะประธานกลุ่มโรงกลั่นฯ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องการให้ภาครัฐสรุปแนวทางการเริ่มบังคับใช้มาตรฐานน้ำมันยูโร 4 ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมี.ค.2552 โดยต้องการให้เลื่อนการบังคับใช้ออกไปอีก 2 ปี

    จากเดิมที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2555

    ทั้งนี้เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ ที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้ค่ายรถยนต์ และโรงกลั่นน้ำมัน มียอดจำหน่ายลดลง ซึ่งหากมีการลงทุนเพื่อปรับปรุงคุณภาพการผลิตให้ได้ ตามมาตรฐานในช่วงนี้ อาจไม่คุ้มค่าลงทุน

    รัฐบาลต้องแจ้งการ ตัดสินใจว่า จะเลื่อนหรือไม่เลื่อนการบังคับใช้ เพื่อให้เอกชนปรับแผน รับมือ และไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิต

    ถ้าเลื่อนการบังคับใช้มาตรฐานยูโร 4 ออกไป น่าจะเป็นผลดีกับประเทศ โดยเฉพาะการลดเงินลงทุน และลดการนำเข้าวัสดุอุปกรณ์ ลงอย่างน้อย 20-25% จากวงเงินเดิม ที่คาดว่าจะต้องลงทุนสูงถึง 5-7 หมื่นล้านบาท

    อย่างไรก็ตาม หากมีการลงทุนตามแผนเดิม จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงกลั่นได้ เนื่องจากความต้องการน้ำมันในประเทศที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ จะทำให้มีน้ำมันส่วนเกิน ที่ต้องระบายส่งออก 15-20%

    ในขณะที่ประเทศที่รับซื้อน้ำมัน ยังไม่ได้ใช้มาตรฐานยูโร 4 จะทำให้ไทยต้องขายน้ำมันมาตรฐานใหม่ ในราคาต่ำ ซึ่งยังไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

    ดูเหตุผลของ กลุ่มโรงกลั่นŽแล้วก็น่าเห็นใจเหมือนกัน เพราะต้องแบกต้นทุนเพิ่ม ในขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจ ยังไม่สอดรับกับคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานสูงขึ้น

    ถ้ามองในระยะยาวแล้ว แม้ว่า โรงกลั่นจะต้องลงทุนสูงขึ้นในระยะนี้ แต่ในระยะยาว น่าจะได้ประโยชน์จากการยกระดับการกลั่นน้ำมัน ให้มีคุณภาพสูงขึ้น

    แม้ว่าจะมีผลผลิตส่วนเกิน แต่ก็จะสามารถ Export ออกไปขายต่างประเทศได้ เพราะน้ำมันประเทศไทย มีคุณภาพ และมาตรฐานสูง

    อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังพอมีทางออก เพราะทาง "พรชัย รุจิประภา" ปลัดกระทรวงพลังงาน ได้หาทางออกในเรื่องนี้ไว้ได้น่าสนใจคือ จะให้กลุ่มโรงกลั่น ใช้วิธีการแลกเปลี่ยนน้ำมันกับโรงกลั่นที่ลงทุนยูโร 4 เสร็จไปแล้ว แทนการเลื่อนการบังคับใช้ยูโร 4 ออกไป พร้อมกับเร่งพัฒนาพื้นที่ อ.ศรีราชา เป็นศูนย์กลางการจำหน่ายน้ำมัน ในภูมิภาคเอเชีย

    การที่กลุ่มโรงกลั่นเสนอขอเลื่อนการบังคับใช้มาตรฐานคุณภาพน้ำมัน และรถยนต์เทียบเท่าคุณภาพยุโรป ระดับที่ 4 (ยูโร 4) ออกไป 1-2 ปี

    โดยให้เหตุผลว่า ต้นทุนราคาค่าก่อสร้างสูงขึ้น

    เรื่องนี้กระทรวงพลังงานจำเป็นต้องเจรจากับกรมควบคุมมลพิษก่อน แต่อาจไม่จำเป็นต้องเลื่อนการบังคับใช้ ยูโร 4 ออกไป สำหรับการจำหน่ายน้ำมันในประเทศ

    แต่โรงกลั่นน้ำมันทั้งหมด อาจใช้วิธีการแลกเปลี่ยนน้ำมัน (สว็อป)กับโรงกลั่นน้ำมันที่มีการลงทุนผลิต ยูโร 4 ไปแล้ว คือ ไทยออยล์และบางจาก

    ทั้งนี้ยอมรับว่ากลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก ยังได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งคาดว่าในปี 2555 จะมีการใช้ เอ็นจีวี เอทานอล และไบโอดีเซล ทดแทนน้ำมันถึง ร้อยละ 30 ส่งผลให้การใช้น้ำมันลดลง จึงต้องมาเน้นการส่งออกเพิ่ม

    อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงาน จะเร่งหาทางช่วยเหลือเพิ่มเติมโดยเร็ว พร้อมทั้งจะเจรจากับกระทรวงการคลังในการดูแลเรื่องของการส่งออกน้ำมันให้รวดเร็วมากขึ้น

    โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ให้เป็นศูนย์กลาง(ฮับ)ในการจำหน่ายน้ำมันในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีโรงกลั่นน้ำมันจำนวนมากตั้งอยู่

    เรื่องนี้ผมเห็นด้วยกับ "ปลัดพรชัย" เพราะในประเทศไทยเราส่งเสริมมาตรฐานยูโร 4 มาตั้งแต่ปีที่แล้ว และก็มีโรงกลั่นสามารถผลิตได้ รวมทั้งค่ายรถยนต์ต่างๆ ก็ตอบรับนโยบาย มีหลายค่ายหลายรุ่นที่กำลังจะผลิตรถยนต์เพื่อรองรับยูโร 4

    หรือแม้แต่ ขสมก. เอง ก็มีรถเมล์ที่ใช้มาตรฐานยูโร 4 ไปแล้วเช่นเดียวกัน

    ดังนั้นเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เรื่องการสว็อปน้ำมัน จึงเป็นเรื่องที่ทำได้ และจะส่งผลดีต่อสุขภาพประชาชน และรายได้เข้าประเทศในระยะยาว

    น้ำมันดีเซลยูโรโฟร์ มีส่วนผสมเหมือนกับน้ำมันดีเซลยูโรทรี ที่ใช้กันอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน แต่มีปริมาณกำมะถันในน้ำมันต่ำกว่า 50 PPM หรือ 0.005% ลดลง 7 เท่า จากดีเซลปัจจุบัน

    นอกจากลดปริมาณกำมะถันแล้ว ยังลดปริมาณสารที่ก่อให้เกิดเขม่าควันดำลง จึงไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ และสามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกรุ่น โดยไม่จำเป็นต้องมีการปรับแต่งเครื่องยนต์ ก่อนการใช้น้ำมันดังกล่าวจากการที่น้ำมันดีเซลยูโรโฟร์ มีปริมาณซีเทนเพิ่มขึ้น จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเครื่องของเครื่องยนต์ดีเซลอีกด้วย

    ปัจจุบันทุกประเทศในยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ต่างใช้น้ำมันมาตรฐาน ยูโร 4 กันทั้งหมด และเชื่อว่าอีกหน่อยทั่วโลก ต้องใช้มาตรฐานเดียวกันนี้ ของไทยเราเองก็ถือว่าเป็น 1 ใน 5 ประเทศของเอเชียที่เข้าสู่มาตรฐานดังกล่าว...น่าภูมิใจออก

    งานนี้ไม่ต้องเลื่อน แต่ให้ใช้ "สว็อป"แทนก็แล้วกัน

 
  รูปประกอบข่าว
http://www.siamrath.co.th/uifont/NewsDetail.aspx?cid=63&nid=34591


Windows Live™ SkyDrive™: Get 25 GB of free online storage. Check it out.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com

รายการบล็อกของฉัน