เที่ยวไทย 5 ภาค ตีโจทย์ไม่แตกมีแต่เจ๊ง |
รายงานโดย :ทีมข่าวท่องเที่ยว: | วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 |

ที่มาของโครงการดังกล่าว ททท.มีแนวคิดการกระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศไทยให้ความคึกคัก หลังต้องเจอกับศึกรอบทิศทาง ทำให้บรรยากาศทางการท่องเที่ยวภายในประเทศซบเซา คนไทยหมดอารมณ์ที่จะเดินทางเที่ยว
ดังนั้น เมื่อททท.ได้งบประมาณกระตุ้นท่องเที่ยวฉุกเฉิน สำหรับตลาดในประเทศ จำนวน 450 ล้านบาท ททท.ต้องการนำผู้ประกอบการท้องถิ่นและผู้ประกอบการส่วนกลาง (กรุงเทพมหานคร) ร่วมซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าทางการท่องเที่ยวร่วมกัน โดยจะตระเวนจัดให้ครบ 5 ภาค ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคกลาง ภายใต้งบประมาณ 100 ล้านบาท หรือเฉลี่ยใช้งบแห่งละ 20 ล้านบาท โดยชวนภาคเอกชนให้ร่วมออกบูธแสดงสินค้าทางการท่องเที่ยวฟรี
แต่รูปแบบการจัดงานที่ไม่ได้วางแผนการล่วงหน้า ทำให้การจัดงานดังกล่าวมีจุดบอดทันที โดยเฉพาะเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาซื้อแพ็กเกจทัวร์ราคาพิเศษ ทั้งๆ ที่ภายในงานผู้ประกอบการ กลุ่มบริษัททัวร์ โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ ตั้งใจจัดรายการส่งเสริมอย่างหนัก ด้วยการลดราคาพิเศษ เฉลี่ย 20-50% รวมถึงกระหน่ำแจก แถมห้องพักเพิ่ม เช่น พัก 2 คืน ฟรี 1 คืน เพื่อจูงใจให้เกิดการตัดสินใจซื้อทันที แต่ก็ขายไม่ออก เพราะนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมงาน ส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจเดินเข้ามาซื้อ
แถมไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่ามีการจัดงาน!!
ประกอบกับสถานที่การออกบูธสินค้าทางการท่องเที่ยวไม่เอื้ออำนวย เพราะการจัดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ ในครั้งนี้ การแบ่งโซนการจัดไม่มีความน่าสนใจ และไม่เป็นสัดส่วน โดยมีบางบูธต้องอยู่นอกพื้นที่ศูนย์ฯ ในช่วงกลางวันซึ่งมีแดดร้อนจัดจึงหมดโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะเยี่ยมชมบูธ หรือบางวันฝนได้กระหน่ำลงมาทำให้เก็บข้าวของไม่ทันเกิดความเสียหายตามมา
ขณะที่โซนการขายสินค้า โอท็อป กลับได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากกว่า เพราะอยู่บริเวณชายหาดย่านชุมชน จึงมีนักท่องเที่ยวแวะชมและเลือกซื้อสินค้าจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่ร่วมออกบูธในครั้งนี้ ต่างกล่าวในทิศทางเดียวกันว่า การเตรียมตัวในครั้งนี้ค่อนข้างน้อย เพราะททท.บอกกล่าวล่วงหน้าไม่เกิน 2 สัปดาห์ บางรายรู้ล่วงหน้าเพียง 2 วันเท่านั้น การจัดงานที่ออกมา จึงเหมือนเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้รับรู้เท่านั้น ว่าแต่ละภาคมีสินค้าอะไร หรือของดีของเด่นประจำจังหวัดอย่างไรบ้าง แต่ยอดขายในแต่ละบูธน้อยเต็มที และส่วนใหญ่จะม้วนเสื่อกลับบ้านโดยไม่มีการเคลื่อนไหวของยอดขายเลยแม้แต่แพ็กเกจเดียว
ภาพของการจัดงานในครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ไม่สามารถกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายได้อย่างแท้จริง เพราะททท.ไม่ได้วางแผนการโฆษณาประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ไว้ล่วงหน้า ประกอบกับนักท่องเที่ยวไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่จะเดินทางมาซื้อแพ็กเกจทัวร์
อย่างไรก็ตาม การจัดงานในอีก 4 ครั้งข้างหน้า ได้แก่ เที่ยวไทย 5 ภาค @ สีสันแดนอีสาน ระหว่างวันที่ 17-19 ก.ค. ที่ จ.อุบลราชธานี เที่ยวไทย 5 ภาค @ สีสันเมืองเหนือ ระหว่าง 31 ก.ค.-2 ส.ค. ที่ จ.พิษณุโลก เที่ยวไทย 5 ภาค @ สีสันภาคใต้ ระหว่างวันที่ 21-23 ส.ค. ที่นครศรีธรรมราช และเที่ยวไทย 5 ภาค @ สีสันสวรรค์ ภาคกลาง ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ย. ที่พระนครศรีอยุธยา ททท.ต้องนำจุดบกพร่องที่เกิดขึ้นมาปรับกลยุทธ์การจัดงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ชัดเจน
เพราะหากททท.ยังคงจัดงานอีก 4 ครั้งที่เหลือ ในรูปแบบเหมือนกับจัดที่พัทยาแล้วละก็ เม็ดเงิน 100 ล้านบาท ที่ททท.นำมาละลายในครั้งนี้ ไม่มีทางถึงมือประชาชนทั่วไปแน่ ผู้ที่ได้รับประโยชน์จะเป็นแค่ออร์แกไนเซอร์ที่รับจัดงานเพียงไม่กี่รายเท่านั้น รวมถึงผู้บริหารททท. ที่จะได้หน้าเวลายืนถ่ายรูปเพื่อทำข่าวประชาสัมพันธ์
เชื่อว่าการทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ในหนนี้จะเป็นบทเรียนให้ททท.ปรับกลยุทธ์การจัดงานแฟร์ท่องเที่ยวให้เห็นผลเรื่องยอดขาย โดยททท.ต้องมุ่งเจาะพื้นที่ที่มีกำลังซื้อ อย่างกรุงเทพฯ เป็นหลัก เพราะคนกรุงเทพฯ มีจุดหมายที่จะเดินทางเที่ยวทั่วไทยอยู่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะลำเอียงไม่จัดงานลงพื้นที่ แต่ควรเกลี่ยงบประมาณ ให้มีความสมเหตุสมผล เพื่อมุ่ง ผลรายได้ให้เห็นเป็นรูปธรรมได้มากกว่านี้
ไม่อย่างนั้น งานนี้เตรียมล้างคอรอดาบได้เลย!!
http://www.posttoday.com/business.php?id=45539
Windows Live™: Keep your life in sync. Check it out.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น