บ.ซีแคนูไทยแลนด์ จำกัด บ้าน ร๊อคการ์เด้นท์ 125/461 บ้านทุ่งคา - บ้านสะปำ ต. รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทรศัพท์ 076 528839 - 40 โทรสาร 076 258841 อีเมล์: info@seacanoe.net เว็บไซต์ http://www.seacanoe.net/ Please visit my blog.Thank you so much. http://www.sanamluang.bloggang.com / http://tham-manamai.blogspot.com / http://www.parent-youth.net/ http://www.tzuchithailand.org/ http://www.pdc.go.th/ http://www.presscouncil.or.th / http://thainetizen.org/ http://www.ictforall.org

"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Bookmark and Share
Blognone

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ปลูกรักคืนนาคา "พลับพลึงธาร"

วันที่ 08 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6735 ข่าวสดรายวัน


ปลูกรักคืนนาคา "พลับพลึงธาร"


คอลัมน์ สดจากเยาวชน

จาวรี ทองดีเลิศ




ปีแล้วปีเล่าก่อนถึงฤดูน้ำ ชาวบ้านและเด็กๆ ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง จะช่วยกันอนุรักษ์พืชน้ำที่ใกล้สูญพันธุ์ประจำถิ่นอย่างพลับพลึงธาร โดยการดูแลฟื้นฟูไว้ในบ่ออนุบาลและปลูกคืนสู่คลองนาคาในเวลาอันเหมาะสม

ชาวบ้านในชุมชนรวมตัวกันในนาม "ชมรมเพลินไพรศรีนาคา" ส่วนเด็กๆ ก็รวมตัวกันในนาม "กลุ่มเด็กรักษ์พลับพลึงธาร" และยังคงทำกิจกรรมนี้อนุรักษ์พิทักษ์คลองมาอย่างต่อเนื่อง

"สมัยก่อนตอนที่ผมยังไม่เกิด แม่บอกว่ามีพลับพลึงธารเต็มคลองนาคาเลยครับ" โปเต้ ด.ช.ธนกร อุ่นขาว หนึ่งในสมาชิกนักอนุรักษ์บอกเล่าการเปลี่ยนแปลงที่ตนได้รู้ได้ฟังจากแม่และผู้ใหญ่ในชุมชน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นทุกๆ ปีจนสังเกตได้

โปเต้เล่าว่า "ตอนผมเป็นเด็กเล็กๆ กับตอนนี้ต่างกันมากครับ ตรงจุดที่เรียกว่าวังยาวซึ่งอยู่หลังบ้านผม เมื่อก่อนมีพลับพลึงธารมากกว่านี้ พอถึงช่วงออกดอกจะขาวเต็มเลย แต่ตอนนี้ก็ลดลงไป"

นักอนุรักษ์แห่งสายน้ำอย่างโปเต้รวมถึงทุกคนในชุมชนรู้คุณค่าความสำคัญของพืชชนิดนี้ และยกย่องเป็นราชินีแห่งสายน้ำ เพราะพลับพลึงธาร ต้นหอมน้ำ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าหญ้าช้องจะอยู่ได้ต่อเมื่อมีน้ำที่สะอาด ค่าตะกอนต่ำ และปริมาณออกซิเจนสูง จึงเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของสายน้ำได้เป็นอย่างดี



ที่สำคัญพืชชนิดนี้มีความพิเศษที่เป็นพืชเฉพาะถิ่นพบในแถบรอยต่อระหว่างจังหวัดระนอง พังงา ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีมากที่คลองนาคาหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้น

ดอกสีขาวที่แย้มกลีบบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ในยามเช้า ใบยาวสีเขียวลู่พลิ้วไปตามสายน้ำคล้ายริบบิ้น เพิ่มความงดงามให้คลองนาคาสายนี้เป็นเท่าตัว แต่ก็มีเหตุผลนานาประการที่ทำให้การกระจายพันธุ์ของพลับพลึงธารลดลงอย่างน่าใจหาย

"มีคนขุดหัวพลับพลึงธารไปขายเป็นพืชประดับใต้น้ำ มีการขุดลอกคลองทำให้ตลิ่งพังครับ ทำให้น้ำในคลองไหลแรงและเร็วขึ้นเพราะไม่มีต้นไม้ริมตลิ่งช่วยทานกระแสน้ำ หัวพลับพลึงธารจึงถูกน้ำกระชากหลุดลอยไปครับ" ด.ช.โปเต้ผู้คุ้นเคยกับดอกไม้งามหลังบ้านตระหนักถึงปัญหานั้นเป็นอย่างดี

ชมรมเพลินไพรศรีนาคาและกลุ่มเด็กรักษ์พลับพลึงธารร่วมกันจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ล่องแพแลพลับพลึงธารทุกปี เปิดเป็นเทศกาลท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม เพราะเป็นช่วงที่ออกดอกบานสะพรั่งเต็มธาร พร้อมกันนั้นชาวบ้านและเด็กๆ ก็ไม่ลืมที่จะพิทักษ์ราชินีแห่งสายน้ำนี้

"เวลาล่องแพไป เราจะบอกนักท่องเที่ยวให้ช่วยกันเก็บขยะรักษาความสะอาดในลำคลอง ไม่เหยียบทำลายพลับพลึงธารในลำน้ำ และการได้มาล่องแพทำให้เราได้เห็นสภาพสองฝั่งฟากคลองจะได้ช่วยกันเฝ้าระวังคลองด้วยครับ" ด.ช.โปเต้บอกเล่ารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งนาคา



หลังฤดู กาลท่องเที่ยวสิ้นสุดลง ดอกงามก็เริ่มโรยรา ประมาณเดือนกุมภาพันธ์เมล็ดเล็กๆ จะแตกและร่วงหล่นเติบโตต่อไป โปเต้รู้ดีว่าพลับพลึงธารขยายพันธุ์ได้อย่างไรในธรรมชาติ จากการสังเกตของจริงในคลองนาคา และจากการปลูกฝังของพ่อแม่นักอนุรักษ์ที่ทดลองเพาะเลี้ยงเมล็ดพลับพลึงธาร ทำให้ได้รู้ว่ากว่าเมล็ดจะงอกรากใช้เวลา 8 วัน กว่าจะเป็นต้นกล้าที่แข็งแรงใช้เวลานานถึง 3 เดือน กว่าต้นกล้าจะผลิดอกงามให้เห็นต้องรอนานเป็นปีๆ

ทั้งพ่อและแม่ของโปเต้จึงสนับสนุนให้คนในชุมชนหวงแหนทรัพยากรในท้องถิ่น รวมถึงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ผลักดันกิจกรรมต่างๆ ให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

"เราทำบ่ออนุบาลไว้ที่บ้าน ใช้น้ำที่มาจากประปาภูเขาต้นน้ำนาคา และมีการเก็บตัวอย่างเมล็ดพลับพลึงธารมาศึกษา เราจะได้เข้าใจธรรมชาติของมันว่าเติบโตอย่างไร อยู่อย่างไร ใช้เวลาเท่าไหร่ เพื่อที่เราจะได้อนุรักษ์ให้คู่กับคลองนาคาตลอดไป" อิสราภรณ์ อุ่นขาว แม่ของโปเต้บอกเล่า

"หัวพลับพลึงธารในบ่ออนุบาลนี้ เราไปช่วยกันเก็บเมื่อปีที่แล้ว ไปเก็บมาหลายรอบครับ เพราะเวลาน้ำป่ามามันหลุดลอยมากับกระแสน้ำ ติดอยู่ตามขอนไม้หรือริมคลอง ถ้าเราไม่เก็บมามันก็จะลอยลงสู่ทะเลแล้วตายครับ เราต้องเอามาไว้ที่บ่ออนุบาล รอให้รากมันแข็งแรง พวกเราจะช่วยกันเอาต้นกล้าไปปลูกในคลองนาคาอีกครั้ง"

"ต้องปลูกช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงที่น้ำลดระดับลง กระแสน้ำไม่แรงมาก ปลูกเพื่อรอเวลาให้รากยึดเกาะดินก่อนที่หน้าฝนจะมาถึง และต้องปลูกตรงจุดที่น้ำไม่เชี่ยว" โปเต้บอกถึงกิจกรรมของนักอนุรักษ์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

"ขุดหินออกมาให้เท่าขนาดหัวพลับพลึงธาร และเอาหัวพลับพลึงธารวางลงไปในหลุม เอาก้อนหินทับๆ ไว้ให้แน่นอีกครั้ง" สมาชิกทุกคนรู้วิธีการปลูกและช่วยกันเต็มที่

ผ่านไปอาทิตย์ สองอาทิตย์ รากของพลับพลึงธารจะยึดเกาะดินไว้มั่น พอฤดูฝนมาถึงราชินีแห่งสายน้ำก็จะฟื้นคืนชีวิตเติบโต งอกใบสีเขียวพลิ้วยาวตามกระแสน้ำ และชูช่อออกดอกหอมตลอดคลองนาคาที่ยาว 7 กิโลเมตรอีกครั้งเมื่อฤดูกาลเบ่งบานมาถึง

เป็นกำลังใจให้ภารกิจยิ่งใหญ่พลังเล็กๆ ของลูกหลานลำนาคา ฟื้นชีวิตราชินีแห่งสายธาร ในรายการทุ่งแสงตะวัน ตอน "คืนสู่สายน้ำ" เช้าวันเสาร์ที่ 9 พ.ค.2552 เวลา 06.25 น. ทางช่อง 3 อสมท. www.payai. com

หน้า 24
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TURONWIzVXdNVEE0TURVMU1nPT0=&sectionid=TURNeE1RPT0=&day=TWpBd09TMHdOUzB3T0E9PQ==

Insert movie times and more without leaving Hotmail®. See how.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com

รายการบล็อกของฉัน