บ.ซีแคนูไทยแลนด์ จำกัด บ้าน ร๊อคการ์เด้นท์ 125/461 บ้านทุ่งคา - บ้านสะปำ ต. รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทรศัพท์ 076 528839 - 40 โทรสาร 076 258841 อีเมล์: info@seacanoe.net เว็บไซต์ http://www.seacanoe.net/ Please visit my blog.Thank you so much. http://www.sanamluang.bloggang.com / http://tham-manamai.blogspot.com / http://www.parent-youth.net/ http://www.tzuchithailand.org/ http://www.pdc.go.th/ http://www.presscouncil.or.th / http://thainetizen.org/ http://www.ictforall.org

"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Bookmark and Share
Blognone

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

สยามเวิลด์ทัวร์ :ยลโฉมมนต์ขลัง"อิสตันบูล" ว่าที่เมืองหลวงวัฒนธรรมของยุโรป

 สยามเวิลด์ทัวร์ :ยลโฉมมนต์ขลัง"อิสตันบูล" ว่าที่เมืองหลวงวัฒนธรรมของยุโรป

ข่าววันที่ 31 พฤษภาคม 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

                หากพูดถึงประเทศตุรกี กันแล้วละก็ "อิสตันบูล" ก็นับเป็นเมืองที่ผุดขึ้นในใจของผู้คน

 ชาวโลกเป็นอันดับแรก ก่อนกรุงอังการา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศแห่งนี้ด้วยซ้ำ

                 ทั้งนี้  เนื่องจากนครแห่งนี้  ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์รวมอารยธรรมโลก  มานับตั้งแต่

 สมัยกรีกโบราณแล้วด้วยซ้ำ

                  แม้ในยุคปัจจุบัน  นครอิสตันบูล  ก็ถือได้ว่า มีจำนวนประชากรหนาแน่นมากที่สุดของ

 ประเทศตุรกี ยิ่งกว่าเมืองหลวง"กรุงอังการา"

                    อย่างไรก็ตาม  นาม  "อิสตันบูล" หาได้เป็นชื่อเรียกขานนครแห่งนี้มาตั้งแต่เดิมไม่  

 เพราะชื่อเดิมนั้น   ก็คือ   "คอนสแตนติโนเปิล"   ซึ่งชื่อดังกล่าว  ตั้งตามนามขององค์

 จักรพรรดิผู้ทรงสถาปนา   

                 นั่นคือ  "จักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราช" 

                  โดยพระองค์  ทรงสถาปนาเมืองแห่งนี้ขึ้นเมื่อ  พ.ศ.  873(ค.ศ.  330)  บนที่

 ราบไบแซนติอุม  หรือไบแซนไทน์  ส่งผลให้อาณาจักรโรมันแบ่งออกเป็นสอง  คือ  โรมัน

 ตะวันตก มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงโรม (ปัจจุบัน คือ เมืองหลวงของอิตาลี) และโรมันตะวันออก

  ซึ่งก็คือ อาณาจักรไบแซนไทน์ อันมีกรุงคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองหลวงนั่นเอง    

                  ต่อมา เมื่ออาณาจักรโรมันตะวันตก (กรุงโรม) ล่มสลายปี พ.ศ. 1018 (ค.ศ. 4

 75)  เพราะถูกอนารยชนรุกราน  "คอนสแตนติโนเปิล"  แห่งอาณาจักรไบแซนไทน์ หรือ

 โรมันตะวันออก  ยังคงยืนหยัดสืบมา  ในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมของอาณาจักรโรมัน

 สืบมา  ซึ่งรวมทั้งวัฒนธรรมของคริสตศาสนา  นิกายออร์โธดอกซ์ คู่แข่งสำคัญของคริสตศา

 สนา นิกายโรมันคาทอลิก อันทรงอิทธิพลแห่งกรุงโรม  

                  อย่างไรก็ตาม   จากการที่   "คอนสแตนติโนเปิล"   ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ระหว่าง

 โกลเดนฮอร์น  กับทะเลมาร์มารา  อันเป็นจุดบรรจบระหว่างทวีปยุโรปกับทวีปเอเชีย  ก็

 เปรียบว่า "คอนสแตนติโนเปิล" เสมือน "สะพาน" เชื่อมต่อระหว่าง "โลกตะวันตก" คือ

  "ทวีปยุโรป"  กับ  "โลกตะวันออก  " คือ "ทวีปเอเชีย" ก็เป็นเหตุปัจจัยให้นครแห่งนี้  

 กลายเป็นแหล่งชุมนุมของวัฒนธรรมทั้งสองฟากฝั่งของโลกไปโดยปริยาย  ซึ่งก็ยิ่งเพิ่มพูนให้

 นครดังกล่าว เจริญไปด้วยวัฒนธรรมต่างๆ เป็นเอนกประการ

                 ทว่า  คำพระท่านว่า "ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง" ซึ่ง "คอนสแตนติโนเปิล" ก็ได้พ้น

 จากสัจธรรมข้อนี้ไม่  เมื่อปรากฏว่าศูนย์กลางแห่งอาณาจักรไบแซนไทน์แห่งนี้  ต้องมีอันล่ม

 สลาย  เพราะถูกรุกรานโดยกองทัพออตโตมานเตอร์ก  ที่นำโดยสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 ใน

 วันที่ 29 พฤษภาคม  พ.ศ. 1996 (ค.ศ. 1453) หรือเมื่อ 556 ปีที่แล้ว

                    ถึงแม้ว่า  "คอนสแตนติโนเปิล"  ถูกยึดครองโดยกองทัพออตโตมานเตอร์ก  แต่ก็ดู

 เหมือนว่า  นครแห่งนี้จะยังไม่สิ้นมนตราแห่งความเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม เมื่อออตโต

 มานเตอร์ก   ได้ใช้นครดังกล่าวเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรไปอย่างเต็มภาคภูมิ   พร้อม

 กันนั้น วัฒนธรรมแบบอิสลามก็หลั่งไหลเข้าสู่ดินแดนแห่งนี้

                   จวบจนกระทั่ง  การล่มสลายของออตโตมานเตอร์ก  และตามมาด้วยการถือกำเนิด

 ขึ้นของ  "สาธารณรัฐตุรกี"  เมื่อปี  พ.ศ.  2466 (ค.ศ. 1923) ที่นำโดย "มุสตาฟา  

 เคมาล อาตาเติร์ก" คอนสแตนติโนเปิล ก็ยังคงความขลังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของ

 สาธารณรัฐตุรกีอยู่ดี ถึงแม้ว่าสถานภาพความเป็นเมืองหลวง ได้ถูกย้ายโอนไปยัง "อังการา

 ไปในฐานะเมืองหลวงแห่งใหม่ของประเทศแล้วก็ตาม  แต่ทว่าถ้าเปรียบเทียบถึงความ

 เจริญรุ่งเรืองระหว่างเมืองทั้งสองแห่งกันแล้วละก็    "อังการา"    ต้องหลีกทางให้แก่

 คอนสแตนติโนเปิล  ในฐานะที่เคยเป็นเมืองหลวงของดินแดนแห่งนี้มานานถึง  1,610  ปี

                   เมื่อตุรกีเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบสาธารณรัฐแล้ว ทางการก็ได้เปลี่ยน

 ชื่อเมืองคอนสแตนติโนเปิล  มาเป็น  "อิสตันบูล" ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษากรีก อันหมาย

 ความว่า  "ในเมือง",  "ของเมือง"  หรือ  "แก่เมือง" โดยในที่นี้หมายถึง "แก่เมือง

 คอนสแตนติโนเปิล"  นั่นเอง  และแม้ว่าถูกริดรอนในอำนาจของเมืองหลวงไปแล้ว แต่ "

 คอนสแตนโนเปิล"   หรือ"อิสตันบูล"   ในชื่อใหม่   ก็ยังคงมนต์เสน่ห์แห่งความอุดมด้าน

 วัฒนธรรมอยู่ดีนั่นเอง  ถึงขนาดถูกยกย่องให้เป็น"พื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์"  แห่งหนึ่ง

 ของโลกเลยทีเดียว   นอกไปจากการเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยว  

 ที่หวังเที่ยวชมในแง่ของวัฒนธรรมแล้ว

                  โดยสถานที่ท่องเที่ยว ที่นับว่าสำคัญ เพราะนอกจากเปรียบเสมือนเป็นแหล่งศูนย์รวม

 ทางวัฒนธรรม  ในฐานะที่เคยเป็นศาสนสถานทั้งของคริสต์และอิสลาม  ตลอดจนถูกยกย่อง

 ให้เป็น  "มรดกโลกทางวัฒนธรรม" ขององค์การยูเนสโกแล้ว ก็คือ "วิหารเซนต์โซเฟีย"  

 หรือ  "ฮาเจีย  โซเฟีย"  ปัจจุบันวิหารแห่งนี้  ได้กลายเป็น "พิพิธภัณฑ์" โดยมีชื่อว่า "

 พิพิธภัณฑ์อะยาโซเฟีย"  

                     เห็นชื่อว่า   "เซนต์โซเฟีย"   ของวิหารแล้วอย่าเพิ่งคิดว่า  เป็นชื่อนักบุญท่านใด  

 แต่แท้จริงแล้ว ชื่อนี้เอามาจากภาษากรีก หมายถึง "โบสถ์หรือวิหารแห่งปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์"

                  สำหรับประวัติความเป็นมาของโบสถ์แห่งนี้ เริ่มสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิคอนสแตนตินม

 หาราช  เมื่อราวคริสต์ศตวรรษที่  4  เพื่อเป็นศาสนสถานของคริสตศาสนา นิกายออร์โธ

 ดอกซ์  ตัวโบสถ์ถูกสร้างขึ้นติดกับบริเวณที่กำลังถูกสร้างเป็นพระราชวัง คล้ายกับวัดพระศรี

 สรรเพชญ์ สมัยกรุงศรีอยุธยา หรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ที่สร้าง

 อยู่ในพระบรมมหาราชวังของไทยเรานั่นเอง

                    อย่างไรก็ตาม  โบสถ์ได้สร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่  15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 903 สมัย

 จักรพรรดิคอนสแตนติอุส  ที่ 2 หลังจากนั้นศาสนสถานแห่งนี้ ก็ถูกสร้างต่อเติมในจักรพรรดิ

 รัชสมัยต่อๆ มา เช่น จักรพรรดิจัสติเนีย ที่ 1 เป็นต้น

                    เมื่อสุลต่านเมห์เหม็ด  ที่ 2 แห่งออตโตมานเตอร์ก ยึดคอนสแตนติโนเปิลได้แล้ว ก็

 ได้แปลงโฉมมาเป็นสุเหร่าของอิสลามไปในเวลาต่อมา

                    ด้วยความที่อิสตันบูล หรือคอนสแตนติโนเปิลเดิม เป็นศูนย์รวมทางวัฒนธรรม ก็ส่งผล

 ให้สหภาพยุโรป    หรืออียู    ได้เตรียมที่จะประกาศให้นครแห่งนี้เป็น    "เมืองหลวง

 ทางวัฒนธรรมของยุโรปในอนาคต"  คือ  ในปี  2553 ให้ชาวโลกได้รับรู้ ก็ยิ่งทำให้อดีต

 ศูนย์วัฒนธรรมโลกแห่งนี้    เพิ่มมนต์ขลังแก่บรรดานักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในเชิงวัฒนธรรม  

 ซึ่งใฝ่ฝันที่จะมายลโฉมอีกเท่าทวีคูณ

 

 
  รูปประกอบข่าว
http://www.siamrath.co.th/uifont/NewsDetail.aspx?cid=54&nid=39124

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com

รายการบล็อกของฉัน