บ.ซีแคนูไทยแลนด์ จำกัด บ้าน ร๊อคการ์เด้นท์ 125/461 บ้านทุ่งคา - บ้านสะปำ ต. รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทรศัพท์ 076 528839 - 40 โทรสาร 076 258841 อีเมล์: info@seacanoe.net เว็บไซต์ http://www.seacanoe.net/ Please visit my blog.Thank you so much. http://www.sanamluang.bloggang.com / http://tham-manamai.blogspot.com / http://www.parent-youth.net/ http://www.tzuchithailand.org/ http://www.pdc.go.th/ http://www.presscouncil.or.th / http://thainetizen.org/ http://www.ictforall.org

"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Bookmark and Share
Blognone

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ปากมูล...ความขัดสนในความสมบูรณ์

วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11404 มติชนรายวัน


ลัดเลาะสองฝั่งโขง ตามพ่อใหญ่หาปลา (1) ปากมูล...ความขัดสนในความสมบูรณ์


โดย ภาสกร จำลองราช padsakorn@hotmail.com




พ่อใหญ่ทองกำลังโชว์ปลาเล็กปลาน้อยที่หาได้จากลวงในน้ำโขง

ยังไม่ทันหกโมงเช้า แต่ทั่วท้องน้ำกลับสว่างแจ้ง แสงสีเหลืองทองทาบทามเหนือขอบฟ้า ทำให้เห็นภาพเรือน้อยนับสิบกำลังลอยลำอยู่กลางน้ำโขง

เมื่อน้ำโขงเริ่มขุ่นเป็นสัญญาณของน้ำแรกว่าปลาเล็กปลาน้อยกำลังว่ายห่างออกไป แต่อีกไม่นานปลาใหญ่ก็กำลังจะตามมา

ฤดูกาลหาปลาของคนปากมูลและริมโขง แม้ปีนี้จวนเจียนล่วงเลยเดือนพฤษภาคมแล้ว แต่ยังไม่มีทีท่าว่าคนมีอำนาจจะเห็นใจปลาที่สู้อุตส่าห์อุ้มท้องแหวกว่ายมาจากแดนไกลตามลำน้ำโขง เพื่อวางไข่และหากินตามลุ่มน้ำสาขาต่างๆ โดยเฉพาะแม่น้ำมูล ซึ่งเป็นแหล่งธรรมชาติสำคัญของฝูงปลามานานนับร้อยนับพันปี

ประตูทุกบานของเขื่อนปากมูลยังคงปิดสนิท ทำให้ฝูงปลาจำนวนมากไปออกันอยู่หน้าเขื่อน มีเพียงคนบ้านหัวเหว่หมู่เดียวเท่านั้นที่หาปลาได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ชุมชนที่อยู่เหนือเขื่อน ทำให้แต่เพียงรอ...รอ...แล้วก็รอวันที่ประตูเขื่อนจะเปิด

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ป่านนี้ชาวบ้านย่านนี้อยู่กันแต่ในแม่น้ำมูลแล้ว

หลายคนที่อยู่ริมแม่มูลจึงต้องหาทางออกด้วยการไปหาปลาในน้ำโขงแทน ทำให้บรรยากาศถิ่นที่อยู่ของพญานาคเป็นไปอย่างคึกคัก

"เมื่อ 2-3 วันก่อน เรือหาปลาหลายกว่านี้ ตอนนี้ปลาเล็กปลาน้อยเริ่มไปหมดแล้ว" การหาปลามาตั้งแต่ตัวกระเปี๊ยก ทำให้พ่อใหญ่สมเกียรติ พ้นภัย แห่งบ้านด่าน ปากมูล เข้าใจระบบนิเวศและฤดูกาลของการหาปลาเป็นอย่างดี "พอน้ำโขงขุ่น มันก็กระจายไปตามลุ่มน้ำสาขาต่างๆ"

เช้านี้ผมมีโอกาสนั่งเรือลำน้อยตามพ่อใหญ่สมเกียรติไปไหลมองกลางน้ำโขงซึ่งกำลังคึกคัก แตกต่างจากลำน้ำมูลอันแสนเงียบเหงา

เรือประมงจอดสงบนิ่งหน้าเขื่อนปากมูลระหว่างรอหาปลา



ก่อนหน้านั้นผมได้แวะไปบ้านนาหว้า ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำมูลช่วงเหนือเขื่อน แม้น้ำจะเอ่อล้นตลิ่ง แต่กลับอ้างว้าง เพราะแทบไม่มีใครหาปลา

"โอ้ย ใครมันจะไปหา เขายังไม่เปิดเขื่อน จะไปเอาปลาที่ไหน" ชาวบ้านนาหว้ายืนยันผลสะเทือนจากการปิดประตูเขื่อนเป็นเสียงเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านพวกเขาต่างเรียกร้องให้เปิดประตูเขื่อนตั้งแต่ก่อนฤดูฝนแล้ว เพราะเป็นช่วงที่ปลาเริ่มเข้ามาวางไข่ แต่ทางการและหน่วยงานที่รับผิดชอบคือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. พยายามโยกโย้ เพราะไม่เคยรู้จักธรรมชาติและเข้าถึงความเดือดร้อนของชาวประมง

สุดท้ายมติในที่ประชุมของจังหวัดในปีนี้ยืนยันเหมือนเอื้ออารีให้เปิดประตูเขื่อนให้ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ซึ่งชาวบ้านได้แต่จำใจรับสภาพเพราะไม่มีทางเลือก หลายบ้านที่เตรียมมอง เตรียมตาข่ายไว้แล้ว ก็ต้องเก็บไปแขวนไว้ข้างฝาต่อไป

พ่อสมเกียรติพาผมแวะคุยกับชาวประมงลำโน้นลำนี้มากกว่าตั้งใจจะหาปลา ชาวบ้านต่างแจ้งข่าวกันว่า ปลาเล็กปลาน้อยที่เอามาทำปลาแดกอพยพผ่านไปแล้ว

"ตอนนี้เพิ่งได้ปลาแดก 4 ไห แต่ปีกลายได้ 300 กว่าไห เอาไปแลกข้าว" พ่อใหญ่ทองเงยหน้าขึ้นมาคุยระหว่างสาวมอง แกโชคดีที่มี "ลวง" เป็นของตัวเอง ทำให้ไม่เคยอดปลา

ลวงเป็นแหล่งหาปลาในแม่น้ำที่ชาวบ้านจับจองไหลมอง ต่างคนต่างมีแหล่งของตัวเองจนเป็นวิถีประชาและกลายเป็นมรดกของครอบครัวที่ธรรมชาติมอบให้ ซึ่งพวกเขาต่างเคารพในกรรมสิทธิ์ของกันและกันโดยไม่ต้องมีกฎหมายบังคับ

"พ่อเองก็บ้านแตกสาแหรกขาดตั้งแต่มีเขื่อน เพราะมันหาปลาไม่ค่อยได้ ลูกๆ 6-7 คน ต้องแยกย้ายกันเข้าไปหางานทำในเมือง เหลืออยู่บ้านเพียงคนเดียว" พ่อใหญ่ทองสะท้อนถึงความสะเทือนในชีวิตจริงที่ได้รับจากเขื่อนปากมูล "ญาติพี่น้องที่เคยเอาข้าวมาแลกกับปลาก็ห่างหายไปเยอะ"

พ่อค้าปลากำลังลำเลียงปลาใหญ่ที่ซื้อมาจากปากเซ ฝั่งลาวเพื่อนำไปขายในตลาดอุบลฯ



เขื่อนปากมูลไม่ได้ส่งผลเฉพาะชาวบ้านโดยรอบ แต่ยังกระทบเป็นลูกโซ่ไปตลอดลำน้ำมูลอีสานตอนล่างซึ่งลึกเข้าไปถึงเมืองโคราช สายสัมพันธ์อันยาวนานของคนบ้านพี่เมืองน้องถูกบั่นเป็นท่อนๆ ตามขั้นเขื่อนที่กั้นตลอดลำน้ำมูล

"นี่ถ้ากั้นเขื่อนกลางลำน้ำโขงอีกก็ไม่รู้จะอยู่อย่างไร" แม้วัยย่าง 73 แล้ว แต่พ่อใหญ่ทองยังคงยึดอาชีพหาปลา แต่ข่าวการสร้างเขื่อนบ้านกุ่ม ซึ่งอยู่ไม่ห่างออกไป ทำให้แกรู้สึกหดหู่และกังวลอย่างยิ่ง เพราะประสบการณ์ที่ได้รับจากการสร้างเขื่อนปากมูลนั้นหนักหนาสาหัสอยู่แล้ว

"เขาคงต้องรักษาเขื่อนปากมูลไว้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าประโยชน์ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะเป็นโครงการนำร่อง เลยยอมรับว่าผิดพลาดไม่ได้" พ่อใหญ่สมเกียรติวิเคราะห์เสริม ทุกวันนี้แกกลายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญในการตะโกนบอกสังคมถึงความล้มเหลวในโครงการสร้างเขื่อนปากมูล

"เมื่อก่อนพอช่วงน้ำลด พวกเราพาครอบครัวล่องขึ้นไปเรื่อยๆ ตามน้ำโขง ค่ำไหนนอนนั่น ไปกันทีละ 10-20 คน แต่เดี๋ยวนี้บรรยากาศอย่างนั้นแทบไม่มีเหลืออยู่แล้ว" พ่อสมเกียรติเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงของชุมชนชาวประมง

ทุกวันนี้แม้ชาวบ้านริมน้ำโขงย่านปากมูลยังคงพอหาปลาได้ แต่นับวันการทำมาหากินยิ่งฝืดเคือง ลึกเข้าไปในฝั่งตรงข้ามปากมูล พี่น้องลาวย่านเมืองโขง แขวงจำปาสัก กำลังคึกคักอยู่กับการหาปลา แต่ละลำเรือขนปลากันเพียบแปล้ หันไปทางใดก็มีแต่ปลา สถานการณ์ช่างแตกต่างกันลิบลับกับเพื่อนบ้านที่ปากมูล ทั้งๆ ที่เป็นสายน้ำเดียวกัน

ทุกข์ของคนเหนือเขื่อน

พ่อใหญ่ถา พบสุข ต้องนั่งรถจากบ้านนาหว้า ซึ่งอยู่เหนือเขื่อนปากมูล เพื่อไปหาปลาในน้ำโขงระหว่างรอให้ประตูเขื่อนปากมูลเปิด

"พวกเราอยากให้เขาเปิดตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม แต่เขาไม่เปิด ทั้งๆ ที่ปลาน้อยไข่เต็มท้องแล้ว มันเลยต้องไปออกันอยู่หน้าเขื่อน" พ่อใหญ่ถารับรู้สถานการณ์ดีเพราะแกตระเวนไปทั่ว

"ปีที่แล้วพวกเราหาปลาในแม่น้ำมูลอยู่ได้ 7 วัน น้ำก็หลากแล้ว ปลากระจัดกระจายไปหมด เขาเปิดเขื่อนให้ช้า"

แม้จะถูกกระแทกและกระหน่ำด้วยโครงการของรัฐจนวิถีชีวิตของพ่อใหญ่และชาวบ้านเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล แต่พวกเขาก็ยังมุ่งมั่นที่จะหาปลา เพราะการหาปลาไม่ใช่แค่เพียงอาชีพ แต่เป็นวงจรในวิถีชีวิตของคนย่านนี้

"ตอนนี้เตรียมมองกันไว้หมดแล้ว รอเปิดเขื่อนเมื่อไหร่ก็ลงมูลกันทันที" พ่อใหญ่บอกอย่างกระตือรือร้น ซึ่งตอนนี้ชาวบ้านกำลังเตรียม "ส่าวลวง" ซึ่งเป็นการร่วมกันลงแรงลอกแม่มูลเพื่อให้ไหลมองได้

"เราหากินเพื่อปากเพื่อท้อง ปู่ย่าตายายก็หากินกันเช่นนี้จนเป็นบ้านเป็นเมือง แต่ตอนนี้กลับต้องมาพูดกันเรื่องเปิด (ประตูเขื่อน) 4 เดือน ปิด (ประตูเขื่อน) 8 เดือน คนพูดนะกินเงินเดือน แต่พวกเรามันคนหาเช้ากินค่ำ" เสียงทิ้งท้ายของพ่อใหญ่ฟังแล้วชวนหดหู่ใจ แต่เป็นความจริงในชีวิตของคนเหนือเขื่อน

หน้า 8
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01way01310552&sectionid=0137&day=2009-05-31

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com

รายการบล็อกของฉัน