seacanoe: วัยใส : "นมแม่" ป้องไข้หวัดฯสายพันธุ์ใหม่

วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วัยใส : "นมแม่" ป้องไข้หวัดฯสายพันธุ์ใหม่

ข่าววันที่ 15 พฤษภาคม 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และรองประธานศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ปกติเด็กที่กินนมแม่จะมีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ น้อยกว่าเด็กที่กินนมผสม 2-10 เท่า เนื่องจากในน้ำนมแม่จะมีสารภูมิคุ้มกันหลากหลายชนิดที่จะช่วยปกป้องลูก ในกรณีไข้หวัดใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ใหม่หรือสายพันธุ์เก่า เมื่อแม่มีการติดเชื้อในน้ำนมแม่ก็สามารถส่งต่อให้กับทารกได้ในระหว่างการให้นม อย่างไรก็ตาม การยังคงให้นมแม่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่แม่จะมอบความปลอดภัยให้กับลูกได้

ผอ.สถาบันสุขภาพเด็กฯกล่าวว่า "ระบบภูมิคุ้มกันของทารกและเด็กเล็กโดยเฉพาะเด็กใน 2 ขวบปีแรก ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ การได้รับน้ำนมแม่จึงเป็นการเสริมภูมิคุ้มกันให้สารหลายตัวในนมแม่ช่วยพัฒนาความสามารถระบบภูมิคุ้มกันของลูกให้แข็งแรงขึ้น เพื่อพร้อมในการต่อสู้กับการติดเชื้อต่างๆ นับเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ส่งภูมิคุ้มกันผ่านนมแม่ช่วยดูแลทารกให้ปลอดภัย"

"แม้ข้อมูลการติดต่อของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทางนมแม่ยังไม่ชัดเจน แต่ศูนย์ควบคุมโรค ประเทศสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่ากรณีระยะระบาดของไข้หวัดใหญ่ธรรมดาซึ่งมีเป็นระยะทุกปี พบน้อยมากที่ลูกจะติดโรคไข้หวัดใหญ่ผ่านน้ำนมแม่ ขณะที่ประเด็นสำคัญคือ ณ เวลาที่แม่มีอาการของไข้หวัดใหญ่ ลูกก็มักได้รับการเจอกับเชื้อไปแล้วหรือไม่ก็ติดไปเรียบร้อยแล้ว แม่เองก็จะมีระดับภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นแล้ว การให้ลูกได้รับนมแม่ ลูกก็จะได้น้ำนมที่มีภูมิคุ้มกันต่อโรค ทำให้ลูกไม่เป็นโรค หรือถ้าเป็นก็มีอาการไม่รุนแรง ควรให้ลูกดูดนมแม่บ่อยๆ เพื่อให้ได้รับภูมิคุ้มกันมากๆ และน้ำนมจะยังคงสร้างได้ดี ถ้าเลิกให้นมแม่ลูกก็จะไม่ได้รับภูมิคุ้มกันนี้"พญ.ศิราภรณ์ กล่าวเสริม