บ.ซีแคนูไทยแลนด์ จำกัด บ้าน ร๊อคการ์เด้นท์ 125/461 บ้านทุ่งคา - บ้านสะปำ ต. รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทรศัพท์ 076 528839 - 40 โทรสาร 076 258841 อีเมล์: info@seacanoe.net เว็บไซต์ http://www.seacanoe.net/ Please visit my blog.Thank you so much. http://www.sanamluang.bloggang.com / http://tham-manamai.blogspot.com / http://www.parent-youth.net/ http://www.tzuchithailand.org/ http://www.pdc.go.th/ http://www.presscouncil.or.th / http://thainetizen.org/ http://www.ictforall.org

"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Bookmark and Share
Blognone

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

กรณีปริศนาแห่งตู้คอนเทนเนอร์พิศวง

วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11397 มติชนรายวัน


กรณีปริศนาแห่งตู้คอนเทนเนอร์พิศวง


โดย ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์



ผมเป็นคนไม่ดีน่าโดนตีแผละๆ เวลาเป็นนักวิชาการก็เก็กท่าพูดแบบฟังแล้วไม่รู้เรื่อง เอาไงกันแน่วุ้ย แต่พอเป็นนักเขียนก็บอกอีกแบบ คงเป็นเพราะนักวิชาการกับประชาชน ฟังดูแล้วห่างเหินจังเลยเนอะ แต่นักเขียนกับคุณผู้อ่าน สนิทสนมกันคล้ายโลกนี้มีเพียงเราสอง จะพร่ำพรอดบอกอะไรก็ทำได้ถนัดปาก อย่างวันนี้ผมจะเล่าเรื่องกรณีปริศนาแห่งตู้คอนเทนเนอร์พิศวงให้คุณฟัง (หากใครเคยอ่านโคนันหรือนิยายนักสืบทั้งหลาย ไม่ต้องแปลกใจ ข้าพเจ้าตั้งชื่อเลียนแบบเต็มๆ)

ความเป็นมาของตู้ดังกล่าว คุณรู้อยู่แล้วล่ะ แต่ผมท้าวความอีกนิด ในทะเลไม่มีเพียงกุ้งหอยปูปลา แต่ยังมีสิ่งที่มนุษย์ทิ้งลงไป ทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย ของส่วนใหญ่ที่เราทิ้งแบบถูกตามกฎ (ที่มนุษย์ตั้ง) ได้แก่ ปะการังเทียม ส่วนใหญ่เป็นแท่งคอนกรีต แต่มีส่วนน้อยที่เป็นอย่างอื่น เช่น เรือ เครื่องบิน ตู้รถไฟ รวมถึงตู้คอนเทนเนอร์ การทิ้งของเหล่านี้ลงทะเล หากเป็นของภาคเอกชน จำเป็นต้องขอความร่วมมือจากภาครัฐ เช่น กรมประมง กรมการขนส่งทางน้ำ กองทัพเรือ ฯลฯ มิฉะนั้นอาจขัดขวางเส้นทางเดินเรือหรือก่อให้เกิดผลต่าง ๆ มากมายที่ไม่เล่าหรอก (แบบว่ายาวน่ะ)

ตู้หรือของใดที่ทิ้งลงไปเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว มักจะอยู่ในพื้นที่ซึ่งไม่ก่อปัญหา เช่น ปะการังเทียมจะทิ้งเป็นกองอยู่รวมกัน ในเขตสามสี่กิโลเมตรจากฝั่ง อันเป็นเขตห้ามทำการประมงอวนลากอยู่แล้ว เพราะอวนแต่ละผืนไม่ใช่ถูก หากเค้าลากแล้วไปติดของใต้น้ำ อวนพินาศ ใครเอ่ยจะรับผิดชอบ กรณีนี้เคยเป็นปัญหาเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ชาวประมงพื้นบ้านทิ้งคอนกรีตติดเหล็กแหลมลงไปป้องกันเรืออวนลาก แต่บางทีก็หลุดออกจากแนวเขตอนุรักษ์ กรมประมงจึงตัดปัญหา จะทิ้งต้องแจ้งและทำในพื้นที่ตามกำหนดเท่านั้น

แต่เมื่อชาวประมงลากปลาแถวทะเลสัตหีบ จู่ๆ อวนก็ติดตูมเข้าให้ เค้าย่อมสงสัย ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมีอะไรมาติดอวน ราคาไม่ถูกนะเฟ้ย เค้าจึงจ้างนักดำน้ำลงไปดู อ้าว...ตู้คอนเทนเนอร์ มาอยู่ได้ไงวุ้ย ? แต่ชาวประมงที่ดีย่อมไม่กระโตกกระตากหาเรื่องใส่ตัว จึงได้แต่ทำพิกัดไว้ บอกต่อให้เพื่อนรู้ จะได้ไม่ซวยเหมือนเรา ข่าวก็แพร่ออกไปในหมู่คนทำมาหากินกับทะเล ชาวประมงบางคนที่ทำลอบปลา ก็นำลอบมาทิ้งไว้ข้างตู้ (ทิ้งลอบลงพื้นโล่งๆ ก็โดนอวนลากเอาไปกินหมด) ด้วยเหตุนี้ ชาวประมงบางคนจึงรู้พิกัดแน่นอน (วางลอบมากับมือ ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ลอบก็หายหมดสิจ๊ะ)

ข่าวปรากฏมาตรงโน้นตรงนี้ ขณะเดียวกัน เรืออวนก็ลากกระโหลกขึ้นมาจากทะเล ผู้คนจึงเริ่มนึกสงสัย เป็นไปได้หรือไม่ มีศพอยู่เต็มตู้คอนเทนเนอร์ จนกลายเป็นเรื่องราวเล่าขาน มีการเรียกร้องให้พิสูจน์มากมาย จนท้ายสุด ชาวประมงอาสาพาสื่อมวลชนไปดู โดดต๋อมลงไปก็ฮัดช่า ภาพใต้น้ำเป็นสิ่งพิสูจน์ได้แน่นอน ใต้ทะเลมีตู้คอนเทนเนอร์จริง อย่างน้อยก็หนึ่งตู้ ส่วนเสียงร่ำลือที่เหลืออีก 7 ตู้ อยู่ห่างฝั่งออกไป บ้างก็ว่าอยู่ลึกตั้ง 50 เมตร เรื่องนั้นคงยังต้องรอการพิสูจน์

แล้วการพิสูจน์หาตู้ที่เหลือยากไหม ? คำตอบคือไม่ลำบากหรอกครับ แค่เอาเรือที่ติดโซน่าห์วิ่งผ่านไปมาตามพิกัดที่พอทราบคร่าวๆ แต่ที่หากันไม่เจอในสมัยก่อน จนบางทีมีเสียงร่ำลือว่าตู้ผีสิง มีขางอกแล้วคลานดืบๆ หนีเรือได้ นั่นเป็นเพราะเรือประมงขนาดเล็กติดเครื่องซาวน์เดอร์ เป็นเครื่องมือราคาถูกหน่อย จะรู้สภาพพื้นท้องทะเลเฉพาะอยู่ใต้ท้องเรือ แต่ถ้าเป็นโซนาร์ สามารถกวาดไปดูพื้นทะเลโดยรอบ เครื่องโซนาร์แม้ราคาหลายแสน แต่สามารถหาได้ตามเรืออวนลากทั่วไป (อยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ เปิดรับนิสิตปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกจ้ะ)

อีกอย่างที่เราจับแพะมาผสมแกะ คือกะโหลกของผู้หญิงรายหนึ่งซึ่งติดมากับเรืออวนลากเมื่อราวหนึ่งปีก่อน ถึงตอนนี้ยังไม่สามารถตามร่องรอยได้ว่า ใครเป็นผู้มอบให้วัด แต่ไม่ได้มีกะโหลกใบนั้นเพียงหนึ่ง แต่มีหลายใบ ที่เหลือโดนเผาไปหมดแล้ว เป็นไปได้ไหมที่จะเป็นกะโหลกมาจากตู้คอนเทนเนอร์ ? อันว่าในทะเลมีศพผู้เสียชีวิต นี่เป็นเรื่องปกติ ผมเคยดำน้ำแถวเกาะช้างเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ก็เคยเจอกะโหลกบนพื้นข้างแนวปะการัง ยังเคยเจอศพในทะเลไม่ต่ำกว่า 2-3 ครั้ง อาจเป็นชาวประมง อาจเป็นผู้คนที่อยู่ริมฝั่ง รวมทั้งจากประเทศเพื่อนบ้าน หรืออื่นๆ อย่าลืมว่าในทะเลมีกระแสน้ำ บางครั้งไหลแรง 5-6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ร่างผู้เสียชีวิตอาจลอยน้ำมาไกลนับร้อยกิโลเมตร เมื่อจมลงก็ไหลไปตามกระแสน้ำใต้ทะเล บริเวณที่เป็นร่องน้ำ ย่อมมีกะโหลกมากกว่าที่อื่น อีกประการหนึ่งคือเรืออวนลากที่เข้าท่าเรือแถวนี้ ไม่จำเป็นต้องลากปลาแถวนี้ อาจไปลากจากที่อื่นก็เป็นได้ (บางทีไปลากไกลถึงประเทศอื่น)

นอกจากนี้ หากเรานำศพไปเก็บไว้ในคอนเทนเนอร์ อย่างน้อยก็ควรจะมีการปิดให้แน่น ไม่งั้นโยนต๋อมทิ้งน้ำสิ้นเรื่อง ไม่ต้องลำบากยกคอนเทนเนอร์ลงทะเล โอกาสที่ตู้ปิดแน่นจะเปิดออกมา คงเป็นเรื่องยาก ยังรวมถึงสัตว์ทะเลที่มาเกาะติดอยู่รอบประตู ยิ่งทำให้เปิดยากไปใหญ่ แต่ไม่ใช่ไม่มีโอกาส เช่น เวลาผ่านไปหลายปี ตู้ผุกร่อน เรือลากอวนมาชน ตู้ถล่ม กระดูกข้างในกระจายออกมา ก็เป็นไปได้นะ เราจึงไม่อาจตัดประเด็นนี้ แม้จะมีความเป็นไปได้น้อยก็ตามเถอะ

แล้วอะไรเอ่ยอยู่ในตู้ ? ฮู่ ๆ จะไปรู้ได้ไงล่ะครับ ? (ข้าพเจ้าคือนักวิทยาศาสตร์ มิอาจฟันธงคอนเฟิร์มหรือเอกเรย์) แต่จะเป็นอะไรก็ตามเถิด เราคงต้องหาวิธีหยั่งรู้ให้จงได้ วิธีที่น่าจะง่ายสุดคือยกตู้ขึ้นมาเปิดดู แต่นั่นกลับเป็นวิธียากสุด เพราะตู้ขนาดใหญ่แถมยังฝังทรายบางส่วน เราสามารถยกของขึ้นจากน้ำได้โดยใช้บอลลูน (ภาษาทหารเรือ) หรือใช้ลิฟต์แบก (ภาษานักดำน้ำ) กองทัพเรือมีบอลลูนขนาดยกของห้าตันสิบตันจากก้นทะเลได้สบาย แต่เราต้องเป่าทรายที่ฝังตู้บางส่วนออก ผูกบอลลูนเข้าไปแล้วเติมอากาศ ตู้ก็ลอยฟุบขึ้นมา จากนั้นพื้นก็ทะลุผลัวะ ของเทกระจาดลงทะเล ถังใส่สารพิษชนพื้นแตกโพละ สารพิษกระจายไปทั่ว กุ้งหอยปูปลาและนักดำน้ำก็ชักแด็กๆ กลายเป็นข่าวทั่วโลก เสร็จแล้วการท่องเที่ยวไทยก็ได้ครึกครื้นคึกคักสมใจอยากแน่ อย่าลืมว่า ตู้ไม่ได้เพิ่งลงไปอยู่ใต้ทะเล แต่อยู่มาสิบยี่สิบปีแล้ว เหล็กใดเล่าจะทนน้ำได้ปานนั้น การยกตู้จึงเป็นวิธีสุดท้ายและต้องใช้ความรอบคอบระมัดระวังให้ถึงที่สุด

การหยั่งรู้จึงควรดำเนินเป็นขั้นตอน ทำกันใต้น้ำนั่นแหละ เริ่มจากตรวจสอบสภาพแวดล้อม พยายามประเมินอายุของตู้ โดยดูจากสัตว์เกาะติดทั้งหลายโดยเฉพาะกัลปังหา ตรวจหาสัญลักษณ์ตัวเลขแผ่นโลหะหรืออะไรก็ตามที่ระบุที่มาของตู้ให้ได้ เช็คคลื่นกัมมันตภาพรังสีให้ชัดเจน เช็คสารพิษที่อยู่บริเวณนั้น แต่นั่นอาจไม่พอเพียง เพราะน้ำไหลไปเรื่อย ถ้าให้แม่นจริง ต้องเจาะรูเล็ก ดูดน้ำมาเช็คสารพิษ จะมีกี่ชนิดก็เช็คไปเถิด จนแน่ใจในระดับหนึ่ง ค่อยเจาะรูส่งกล้องเข้าไปข้างใน ประเมินจากภาพ ก่อนมั่นใจจริงจัง ค่อยส่งนักดำน้ำเข้าไปเก็บตัวอย่างของใดก็ตามที่อยู่ในนั้นมาวิเคราะห์กันต่อไป

เรากำลังจะเริ่มกระบวนการดังกล่าว (แล้วทำไมยังไม่เริ่ม ? คำตอบง่ายมากครับ รอการอนุมัติไงล่ะ) สักวันคุณและผมคงทราบว่า มีอะไรอยู่ในตู้ รวมถึงอาจทราบเรื่องอื่นๆ ต่อเนื่องไปจนถึงผู้ทิ้งตู้และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เป็นธรรมดาของเรื่องลึกลับ ใครเค้าจะจบในตอนเดียว เรื่องชื่อยาวเหยียดที่เริ่มต้นเหมือนภาพยนตร์สองชั่วโมงจบ จึงลงเอยด้วยการเป็นละครซีรีส์ดูกันตาแฉะ เผลอๆ อาจจบแบบไม่สมใจคนดู แต่สำหรับเรื่องตู้ ข้าน้อยขอสัญญา ไม่ว่าเรื่องนี้จะอยู่ในความสนใจของสังคมหรือไม่ ผมจะพยายามหาทางหยั่งรู้ต่อไป แล้วจะนำมาเล่าสู่กันฟังให้ได้ เพราะเคยแค้นใจ อ่านนิยายนักสืบแล้วจู่ๆ ก็ตัดจบ ปล่อยให้คนอ่านคิดเอง...จะบ้าเหรอ

กรุณาติดตามกรณีปริศนาแห่งตู้คอนเทนเนอร์พิศวงภาคสองสามสี่ หากผู้กำกับท่านใดสนใจทำเป็นภาพยนตร์หรือละคร ผมรับจ๊อบเขียนบทด้วยครับ

หน้า 8

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01way03240552&sectionid=0137&day=2009-05-24
 


Hotmail® has ever-growing storage! Don't worry about storage limits. Check it out.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com

รายการบล็อกของฉัน