วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11397 มติชนรายวัน
กรณีปริศนาแห่งตู้คอนเทนเนอร์พิศวง
โดย ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
ผมเป็นคนไม่ดีน่าโดนตีแผละๆ เวลาเป็นนักวิชาการก็เก็กท่าพูดแบบฟังแล้วไม่รู้เรื่อง เอาไงกันแน่วุ้ย แต่พอเป็นนักเขียนก็บอกอีกแบบ คงเป็นเพราะนักวิชาการกับประชาชน ฟังดูแล้วห่างเหินจังเลยเนอะ แต่นักเขียนกับคุณผู้อ่าน สนิทสนมกันคล้ายโลกนี้มีเพียงเราสอง จะพร่ำพรอดบอกอะไรก็ทำได้ถนัดปาก อย่างวันนี้ผมจะเล่าเรื่องกรณีปริศนาแห่งตู้คอนเทนเนอร์พิศวงให้คุณฟัง (หากใครเคยอ่านโคนันหรือนิยายนักสืบทั้งหลาย ไม่ต้องแปลกใจ ข้าพเจ้าตั้งชื่อเลียนแบบเต็มๆ)
ความเป็นมาของตู้ดังกล่าว คุณรู้อยู่แล้วล่ะ แต่ผมท้าวความอีกนิด ในทะเลไม่มีเพียงกุ้งหอยปูปลา แต่ยังมีสิ่งที่มนุษย์ทิ้งลงไป ทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย ของส่วนใหญ่ที่เราทิ้งแบบถูกตามกฎ (ที่มนุษย์ตั้ง) ได้แก่ ปะการังเทียม ส่วนใหญ่เป็นแท่งคอนกรีต แต่มีส่วนน้อยที่เป็นอย่างอื่น เช่น เรือ เครื่องบิน ตู้รถไฟ รวมถึงตู้คอนเทนเนอร์ การทิ้งของเหล่านี้ลงทะเล หากเป็นของภาคเอกชน จำเป็นต้องขอความร่วมมือจากภาครัฐ เช่น กรมประมง กรมการขนส่งทางน้ำ กองทัพเรือ ฯลฯ มิฉะนั้นอาจขัดขวางเส้นทางเดินเรือหรือก่อให้เกิดผลต่าง ๆ มากมายที่ไม่เล่าหรอก (แบบว่ายาวน่ะ)
ตู้หรือของใดที่ทิ้งลงไปเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว มักจะอยู่ในพื้นที่ซึ่งไม่ก่อปัญหา เช่น ปะการังเทียมจะทิ้งเป็นกองอยู่รวมกัน ในเขตสามสี่กิโลเมตรจากฝั่ง อันเป็นเขตห้ามทำการประมงอวนลากอยู่แล้ว เพราะอวนแต่ละผืนไม่ใช่ถูก หากเค้าลากแล้วไปติดของใต้น้ำ อวนพินาศ ใครเอ่ยจะรับผิดชอบ กรณีนี้เคยเป็นปัญหาเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ชาวประมงพื้นบ้านทิ้งคอนกรีตติดเหล็กแหลมลงไปป้องกันเรืออวนลาก แต่บางทีก็หลุดออกจากแนวเขตอนุรักษ์ กรมประมงจึงตัดปัญหา จะทิ้งต้องแจ้งและทำในพื้นที่ตามกำหนดเท่านั้น
แต่เมื่อชาวประมงลากปลาแถวทะเลสัตหีบ จู่ๆ อวนก็ติดตูมเข้าให้ เค้าย่อมสงสัย ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมีอะไรมาติดอวน ราคาไม่ถูกนะเฟ้ย เค้าจึงจ้างนักดำน้ำลงไปดู อ้าว...ตู้คอนเทนเนอร์ มาอยู่ได้ไงวุ้ย ? แต่ชาวประมงที่ดีย่อมไม่กระโตกกระตากหาเรื่องใส่ตัว จึงได้แต่ทำพิกัดไว้ บอกต่อให้เพื่อนรู้ จะได้ไม่ซวยเหมือนเรา ข่าวก็แพร่ออกไปในหมู่คนทำมาหากินกับทะเล ชาวประมงบางคนที่ทำลอบปลา ก็นำลอบมาทิ้งไว้ข้างตู้ (ทิ้งลอบลงพื้นโล่งๆ ก็โดนอวนลากเอาไปกินหมด) ด้วยเหตุนี้ ชาวประมงบางคนจึงรู้พิกัดแน่นอน (วางลอบมากับมือ ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ลอบก็หายหมดสิจ๊ะ)
ข่าวปรากฏมาตรงโน้นตรงนี้ ขณะเดียวกัน เรืออวนก็ลากกระโหลกขึ้นมาจากทะเล ผู้คนจึงเริ่มนึกสงสัย เป็นไปได้หรือไม่ มีศพอยู่เต็มตู้คอนเทนเนอร์ จนกลายเป็นเรื่องราวเล่าขาน มีการเรียกร้องให้พิสูจน์มากมาย จนท้ายสุด ชาวประมงอาสาพาสื่อมวลชนไปดู โดดต๋อมลงไปก็ฮัดช่า ภาพใต้น้ำเป็นสิ่งพิสูจน์ได้แน่นอน ใต้ทะเลมีตู้คอนเทนเนอร์จริง อย่างน้อยก็หนึ่งตู้ ส่วนเสียงร่ำลือที่เหลืออีก 7 ตู้ อยู่ห่างฝั่งออกไป บ้างก็ว่าอยู่ลึกตั้ง 50 เมตร เรื่องนั้นคงยังต้องรอการพิสูจน์
แล้วการพิสูจน์หาตู้ที่เหลือยากไหม ? คำตอบคือไม่ลำบากหรอกครับ แค่เอาเรือที่ติดโซน่าห์วิ่งผ่านไปมาตามพิกัดที่พอทราบคร่าวๆ แต่ที่หากันไม่เจอในสมัยก่อน จนบางทีมีเสียงร่ำลือว่าตู้ผีสิง มีขางอกแล้วคลานดืบๆ หนีเรือได้ นั่นเป็นเพราะเรือประมงขนาดเล็กติดเครื่องซาวน์เดอร์ เป็นเครื่องมือราคาถูกหน่อย จะรู้สภาพพื้นท้องทะเลเฉพาะอยู่ใต้ท้องเรือ แต่ถ้าเป็นโซนาร์ สามารถกวาดไปดูพื้นทะเลโดยรอบ เครื่องโซนาร์แม้ราคาหลายแสน แต่สามารถหาได้ตามเรืออวนลากทั่วไป (อยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ เปิดรับนิสิตปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกจ้ะ)
อีกอย่างที่เราจับแพะมาผสมแกะ คือกะโหลกของผู้หญิงรายหนึ่งซึ่งติดมากับเรืออวนลากเมื่อราวหนึ่งปีก่อน ถึงตอนนี้ยังไม่สามารถตามร่องรอยได้ว่า ใครเป็นผู้มอบให้วัด แต่ไม่ได้มีกะโหลกใบนั้นเพียงหนึ่ง แต่มีหลายใบ ที่เหลือโดนเผาไปหมดแล้ว เป็นไปได้ไหมที่จะเป็นกะโหลกมาจากตู้คอนเทนเนอร์ ? อันว่าในทะเลมีศพผู้เสียชีวิต นี่เป็นเรื่องปกติ ผมเคยดำน้ำแถวเกาะช้างเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ก็เคยเจอกะโหลกบนพื้นข้างแนวปะการัง ยังเคยเจอศพในทะเลไม่ต่ำกว่า 2-3 ครั้ง อาจเป็นชาวประมง อาจเป็นผู้คนที่อยู่ริมฝั่ง รวมทั้งจากประเทศเพื่อนบ้าน หรืออื่นๆ อย่าลืมว่าในทะเลมีกระแสน้ำ บางครั้งไหลแรง 5-6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ร่างผู้เสียชีวิตอาจลอยน้ำมาไกลนับร้อยกิโลเมตร เมื่อจมลงก็ไหลไปตามกระแสน้ำใต้ทะเล บริเวณที่เป็นร่องน้ำ ย่อมมีกะโหลกมากกว่าที่อื่น อีกประการหนึ่งคือเรืออวนลากที่เข้าท่าเรือแถวนี้ ไม่จำเป็นต้องลากปลาแถวนี้ อาจไปลากจากที่อื่นก็เป็นได้ (บางทีไปลากไกลถึงประเทศอื่น)
นอกจากนี้ หากเรานำศพไปเก็บไว้ในคอนเทนเนอร์ อย่างน้อยก็ควรจะมีการปิดให้แน่น ไม่งั้นโยนต๋อมทิ้งน้ำสิ้นเรื่อง ไม่ต้องลำบากยกคอนเทนเนอร์ลงทะเล โอกาสที่ตู้ปิดแน่นจะเปิดออกมา คงเป็นเรื่องยาก ยังรวมถึงสัตว์ทะเลที่มาเกาะติดอยู่รอบประตู ยิ่งทำให้เปิดยากไปใหญ่ แต่ไม่ใช่ไม่มีโอกาส เช่น เวลาผ่านไปหลายปี ตู้ผุกร่อน เรือลากอวนมาชน ตู้ถล่ม กระดูกข้างในกระจายออกมา ก็เป็นไปได้นะ เราจึงไม่อาจตัดประเด็นนี้ แม้จะมีความเป็นไปได้น้อยก็ตามเถอะ
แล้วอะไรเอ่ยอยู่ในตู้ ? ฮู่ ๆ จะไปรู้ได้ไงล่ะครับ ? (ข้าพเจ้าคือนักวิทยาศาสตร์ มิอาจฟันธงคอนเฟิร์มหรือเอกเรย์) แต่จะเป็นอะไรก็ตามเถิด เราคงต้องหาวิธีหยั่งรู้ให้จงได้ วิธีที่น่าจะง่ายสุดคือยกตู้ขึ้นมาเปิดดู แต่นั่นกลับเป็นวิธียากสุด เพราะตู้ขนาดใหญ่แถมยังฝังทรายบางส่วน เราสามารถยกของขึ้นจากน้ำได้โดยใช้บอลลูน (ภาษาทหารเรือ) หรือใช้ลิฟต์แบก (ภาษานักดำน้ำ) กองทัพเรือมีบอลลูนขนาดยกของห้าตันสิบตันจากก้นทะเลได้สบาย แต่เราต้องเป่าทรายที่ฝังตู้บางส่วนออก ผูกบอลลูนเข้าไปแล้วเติมอากาศ ตู้ก็ลอยฟุบขึ้นมา จากนั้นพื้นก็ทะลุผลัวะ ของเทกระจาดลงทะเล ถังใส่สารพิษชนพื้นแตกโพละ สารพิษกระจายไปทั่ว กุ้งหอยปูปลาและนักดำน้ำก็ชักแด็กๆ กลายเป็นข่าวทั่วโลก เสร็จแล้วการท่องเที่ยวไทยก็ได้ครึกครื้นคึกคักสมใจอยากแน่ อย่าลืมว่า ตู้ไม่ได้เพิ่งลงไปอยู่ใต้ทะเล แต่อยู่มาสิบยี่สิบปีแล้ว เหล็กใดเล่าจะทนน้ำได้ปานนั้น การยกตู้จึงเป็นวิธีสุดท้ายและต้องใช้ความรอบคอบระมัดระวังให้ถึงที่สุด
การหยั่งรู้จึงควรดำเนินเป็นขั้นตอน ทำกันใต้น้ำนั่นแหละ เริ่มจากตรวจสอบสภาพแวดล้อม พยายามประเมินอายุของตู้ โดยดูจากสัตว์เกาะติดทั้งหลายโดยเฉพาะกัลปังหา ตรวจหาสัญลักษณ์ตัวเลขแผ่นโลหะหรืออะไรก็ตามที่ระบุที่มาของตู้ให้ได้ เช็คคลื่นกัมมันตภาพรังสีให้ชัดเจน เช็คสารพิษที่อยู่บริเวณนั้น แต่นั่นอาจไม่พอเพียง เพราะน้ำไหลไปเรื่อย ถ้าให้แม่นจริง ต้องเจาะรูเล็ก ดูดน้ำมาเช็คสารพิษ จะมีกี่ชนิดก็เช็คไปเถิด จนแน่ใจในระดับหนึ่ง ค่อยเจาะรูส่งกล้องเข้าไปข้างใน ประเมินจากภาพ ก่อนมั่นใจจริงจัง ค่อยส่งนักดำน้ำเข้าไปเก็บตัวอย่างของใดก็ตามที่อยู่ในนั้นมาวิเคราะห์กันต่อไป
เรากำลังจะเริ่มกระบวนการดังกล่าว (แล้วทำไมยังไม่เริ่ม ? คำตอบง่ายมากครับ รอการอนุมัติไงล่ะ) สักวันคุณและผมคงทราบว่า มีอะไรอยู่ในตู้ รวมถึงอาจทราบเรื่องอื่นๆ ต่อเนื่องไปจนถึงผู้ทิ้งตู้และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เป็นธรรมดาของเรื่องลึกลับ ใครเค้าจะจบในตอนเดียว เรื่องชื่อยาวเหยียดที่เริ่มต้นเหมือนภาพยนตร์สองชั่วโมงจบ จึงลงเอยด้วยการเป็นละครซีรีส์ดูกันตาแฉะ เผลอๆ อาจจบแบบไม่สมใจคนดู แต่สำหรับเรื่องตู้ ข้าน้อยขอสัญญา ไม่ว่าเรื่องนี้จะอยู่ในความสนใจของสังคมหรือไม่ ผมจะพยายามหาทางหยั่งรู้ต่อไป แล้วจะนำมาเล่าสู่กันฟังให้ได้ เพราะเคยแค้นใจ อ่านนิยายนักสืบแล้วจู่ๆ ก็ตัดจบ ปล่อยให้คนอ่านคิดเอง...จะบ้าเหรอ
กรุณาติดตามกรณีปริศนาแห่งตู้คอนเทนเนอร์พิศวงภาคสองสามสี่ หากผู้กำกับท่านใดสนใจทำเป็นภาพยนตร์หรือละคร ผมรับจ๊อบเขียนบทด้วยครับ
หน้า 8
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01way03240552§ionid=0137&day=2009-05-24
Hotmail® has ever-growing storage! Don't worry about storage limits. Check it out.
บ.ซีแคนูไทยแลนด์ จำกัด บ้าน ร๊อคการ์เด้นท์ 125/461 บ้านทุ่งคา - บ้านสะปำ ต. รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทรศัพท์ 076 528839 - 40 โทรสาร 076 258841 อีเมล์: info@seacanoe.net เว็บไซต์ http://www.seacanoe.net/ Please visit my blog.Thank you so much. http://www.sanamluang.bloggang.com / http://tham-manamai.blogspot.com / http://www.parent-youth.net/ http://www.tzuchithailand.org/ http://www.pdc.go.th/ http://www.presscouncil.or.th / http://thainetizen.org/ http://www.ictforall.org
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ผู้ติดตาม
คลังบทความของบล็อก
-
▼
2009
(408)
-
▼
พฤษภาคม
(118)
- อ้อนรัฐสานต่อโลจิสติกส์ ส.อ.ท.ปลื้มเอกชนร่วมโครงกา...
- นกเค้าใหญ่พันธุ์เนปาล อินทรีแห่งรัตติกาล
- ลด"โลกร้อน" อย่างเป็นธรรม
- เห็ดประหลาด คล้ายปลาหมึก
- ลำดับโครงการ"ให้เช่าที่ดิน" สรุป 5 ปีรับสิทธิแล้ว ...
- "เสือตัวเมีย"
- ไปเหนือสุดของอินเดีย แคชเมียร์ สวรรค์บนดิน ?
- ปากมูล...ความขัดสนในความสมบูรณ์
- ชื่อนั้นสำคัญฉะนี้ (4)
- ทีมแพทย์ประสานหมอจุฬา/มหิดลรักษาช้างสุรินทร์ด่วน
- ศูนย์ช้างลำปางปลื้มไม่แพ้เชียงใหม่มีสมาชิกใหม่เพศเมีย
- สยามเวิลด์ทัวร์ :ยลโฉมมนต์ขลัง"อิสตันบูล" ว่าที่เม...
- หนูน้อยCody นักสู้ผู้มีหลายขา:The boy with the mag...
- บาม นครแห่งโคลน มหานครของโลกยุคอดีตกาล อัญมณีล้ำค่...
- ตำนานบัวหลวง ถิ่นรวงข้าว
- อองเธอเพอนัวร์แห่งอัมพวา บูมอัมพวาไม่ได้มาฟรีๆ มาด...
- ท่องสวนป่าทองผาภูมิ ดูผลงานความร่วมใจของชุมชนห้วยเ...
- ยูเนสโกช็อค! 1 ปีไทยเปลี่ยนหน.อุทยานหมู่เกาะสุรินท...
- แนวโน้มการใช้มาตรการทางการค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมจากปั...
- ภาคประชาชนเอาจริงล่า 10,000 รายชื่อเสนอกฎหมายองค์ก...
- "แมนเมดพัทยา" ชวนตื่นตา น่าตื่นใจ
- "ตำลึง" ไม่พอกินในไทยแต่เป็น "เอเลียนสปีชีส์" ที่ร...
- เครือข่าย 'มังคุด' เมืองจันทบุรี ทีมผู้ผลิต 'ราชิน...
- ไต้หวันปลูกมะม่วง 'เออร์วิน' และ 'จินหวง' เพื่อการ...
- บัตรทางด่วน Easy Pass ผ่านสบายๆ ง่ายกว่าที่คิด
- เทคโนโลยีคัดกรองตัวอ่อน ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก...
- "มาร์ค"ไม่พอใจส่งออกติดลบ15-20%ลั่นทำทุกวิถีทางช่ว...
- มิวเซียมภูเก็ต เพื่อ"คน"ในประเทศไทย
- แลกเปลี่ยนประสบการณ์"ครั้งแรก"
- ไขปมโควตา-งบฯ-เงิน-คดี ป.ป.ช. ตัวเร่ง 5 พรรค "ปรับ...
- มีทั้งโลภ-มีทั้งของจริง! 'ป้ายยารูดทรัพย์' มันกลับ...
- ปรากฏการณ์ชายหาด 'เต่าทะเลวางไข่' 'ฝั่งอ่าวไทย' คร...
- ลูกค้าแสบสุมหัวโกงสินเชื่อบ้าน
- บ้านใร่กาแฟปิด 70 แห่งในปั๊มปตท.
- 'อินชอนแกรนด์' ที่สุดของที่สุด
- "นกเค้าจุด" จอมเจี๊ยวจ๊าว
- กรณีปริศนาแห่งตู้คอนเทนเนอร์พิศวง
- ชื่อนั้นสำคัญฉะนี้ (3)
- เพาะพันธุ์นกกระเรียนไทยครบตัวที่ 100
- ชวนชมนวลพฤกษา
- มีอะไรให้ดูใน "ฟาร์มโชคชัย" สิ่งที่หาไม่ได้จาก "Go...
- 2 เดือน เช็คช่วยชาติยังสอบไม่ผ่าน
- “วีระศักดิ์” ล้วงข้อมูลจาต้าเจาะตลาดญี่ปุ่น ปีหน้า...
- สังคม"ทันสมัย" แต่ไร้สมอง
- แอบเก็บมาฝาก "Gadget กิ๊บเก๋" รับเปิดเทอม
- หนอนตัวไหนหม่ำเก่งที่สุด
- เที่ยวไทยครึกครื้นฯ ตอน ชุมชนเมืองเก่าภูเก็ต เสน่ห...
- Lebanon ปลายทางของคู่รัก
- การสูญเสียพื้นดินถิ่นเกิดของคนไทยทั้งชาติ!
- ชื่อนั้นสำคัญฉะนี้ (2)
- "ธรณ์"ชี้ใช้งบฯ 5 พันบาทเก็บ"ปะการัง"พิสูจน์อายุตู...
- 'ชีวิตทวนกระแส' ของเกษตรกรรุ่นใหม่ บนวิถีไทย 'ไท'
- ส่งเสริมปลูกต้นไม้โตเร็ว สร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษ...
- 'ยางพารา' ไม้เศรษฐกิจ ลดโลกร้อน...
- วิธีป้องกันและกำจัด 'เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง' ที่ระบ...
- วัยใส : มหกรรมของจิ๋ว...ครั้งที่ 3
- นอกตำรา : หลักสูตรสีเขียว... SCG Sci-Camp
- วัยใส : "นมแม่" ป้องไข้หวัดฯสายพันธุ์ใหม่
- ลานคอนเสิร์ตในถ้ำ
- ทรงศักดิ์ ศรีเคลือบ "ช่วงนี้เป็นโอกาสทองของนักท่อง...
- เที่ยวสวนเมืองนนท์ พืชผักปลอดภัย กล้วยไม้คุณภาพส่งออก
- การแสดงภาพพิมพ์และวาดเส้นนานาชาติ ครั้งที่ 2 The 2...
- Pictures from nature
- นกเค้าเหยี่ยว "เหยี่ยวราตรี"ตัวจริง
- ระพีเสวนา ภูมิปัญญาวิถีไทย
- ดื่มคลายร้อน
- ชื่อนั้นสำคัญฉะนี้ Fairy Pitta นกแต้วแล้วชนิดใหม่...
- เลี้ยงช้างเอาไปฆ่ายุง เป็นยาถูกที่สุดซ้ำยังเป็นเชื...
- เฟสตา 8 สมาคมท่องเที่ยว งดร่วมประชุมททท.
- ตั้งพิพิธภัณฑ์ “สมเด็จเดโชฯ” ดูดนักท่องเที่ยวไปพระ...
- "ชีวิตชายเลน"สมุทรสาคร "วิถี..ชาวบางโทรัด"วัน"ป่าม...
- สุดแดนใต้สายหาดใหญ่ "ปีนัง สู่ เบตง"
- ยล 'เขาหินปะการัง' อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์
- เรียนรู้สู้...ฮีโมฟีเลีย
- ตร.เชียงรายจับ 5 แก๊งคนมีสีอุ้มฆ่า
- ขู่แก้ก.ม.ยึด “ช้างเร่ร่อน”เข้าหลวง
- ยำยอดมะม่วงอ่อน รสเด็ดหน้าร้อน
- ปลูกรักคืนนาคา "พลับพลึงธาร"
- เปิดปม-แก้เกมฝ่าวิกฤตท่องเที่ยวไทย
- ‘พระตะเลงพ่าย’ แบบฉบับอ.จักรพันธุ์
- เล็งเอาผิดคนในทอท. เอี่ยวรับส่วย แท็กซี่สุวรรณภูมิ
- สถาบันล้านนาศึกษา เชียงใหม่
- พิพิธภัณฑ์หินแปลก
- คนไอทีแนะวิธีสมัครงาน-ทำธุรกิจออนไลน์
- ยกย่องดญ.12ขวบ เป็นพลเมืองดี เก็บเงินแสนคืนเจ้าของ
- เที่ยวไทย 5 ภาค ตีโจทย์ไม่แตกมีแต่เจ๊ง
- 10 อันดับสุดยอดแห่งผีเสื้อ ส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุ...
- ปลาสลิดหิน เจ้าถิ่นตัวจิ๋ว / วินิจ รังผึ้ง
- ศิลปะหริภุญชัย ชวนหลงใหลที่ลำพูน/ปิ่น บุตรี
- เหนือความคาดหมาย กับ“โพท้องท่องภูเก็ต”/ ปิ่น บุตรี
- สิมิลัน หวั่นไหว/ปิ่น บุตรี
- ลำปาง : ช้างไทย ชั้นเทพ/ปิ่น บุตรี
- "ดร.กนก" เดินสาย ฟื้นเชื่อมั่น "ต้นกล้าอาชีพ" "แสน...
- ผู้เชี่ยวชาญมหิดลไขข้อข้องใจ "ไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม...
- ผีเสื้อเชิงลายธรรมดา
- กบกะเขียด ตัวหนอนกะนกแก้ว ของวงการลูกปัด
- Migration Magic (2)
- งานดีไซน์เพื่อ สวล.
- ตีแผ่ภาวะโลกร้อน
- รักษ์ลำน้ำมูล
-
▼
พฤษภาคม
(118)
เกี่ยวกับฉัน

- sundara
- ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น