บ.ซีแคนูไทยแลนด์ จำกัด บ้าน ร๊อคการ์เด้นท์ 125/461 บ้านทุ่งคา - บ้านสะปำ ต. รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทรศัพท์ 076 528839 - 40 โทรสาร 076 258841 อีเมล์: info@seacanoe.net เว็บไซต์ http://www.seacanoe.net/ Please visit my blog.Thank you so much. http://www.sanamluang.bloggang.com / http://tham-manamai.blogspot.com / http://www.parent-youth.net/ http://www.tzuchithailand.org/ http://www.pdc.go.th/ http://www.presscouncil.or.th / http://thainetizen.org/ http://www.ictforall.org

"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Bookmark and Share
Blognone

วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วิธีป้องกันและกำจัด 'เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง' ที่ระบายอย่างแรง...

วันที่ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 00:00 น. |
 
 
วิธีป้องกันและกำจัด 'เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง' ที่ระบายอย่างแรง...
ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตมันสำปะหลังรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากไนจีเรียและบราซิล แต่ไทยเป็นประเทศที่ส่งออกมันสำปะหลังรายใหญ่ที่สุด การปลูกมันสำปะหลังในอดีตไม่พบปัญหาการระบาดของแมลงศัตรูพืช เนื่องจากเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนทานและปรับตัวได้ดี แต่จากการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันทำให้เริ่มประสบปัญหาการระบาดของแมลงศัตรูพืช ซึ่งเดิมอาจจะพบอยู่แล้วแต่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ
 
ต้นปี 2551 พบการระบาดของ เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง จำนวน 2 ชนิด ชนิดแรก คือเพลี้ยแป้งลาย ซึ่งพบระบาดทั่วไปแต่ยังไม่เคยสร้างปัญหารุนแรงต่อผลผลิตมันสำปะหลัง ส่วนเพลี้ยแป้งอีกชนิดหนึ่งไม่เคยมีรายงานพบการระบาดในมันสำปะหลังมาก่อน แต่พบการทำลายเสียหายรุนแรงกว่าชนิดแรก  
 
เดือนเมษายน 2551 เกษตรกรได้แจ้งเรื่อง ขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาเพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลังที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร  ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้ให้คำแนะนำวิธีการป้องกันและกำจัดเพลี้ยแป้งให้แก่เกษตรกรที่ประสบปัญหาเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังปัจจุบันพบการระบาดมีแนวโน้มขยายวงกว้างและทวีความรุนแรงมากขึ้นในหลายจังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว นครราชสีมา และกำแพงเพชร  โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมาพบมีพื้นที่การระบาดมากที่สุดประมาณ 300,000 ไร่ นอกจากนี้ยังได้รับการแจ้งจากเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรีว่าพบการระบาดของเพลี้ยแป้งแต่สถานการณ์ยังอยู่ในขั้นไม่รุนแรง  
 
สาเหตุการระบาดของเพลี้ยแป้งยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันมีส่วนทำให้เกิดการระบาดของเพลี้ยแป้ง แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พื้นที่การระบาดขยายวงกว้างขึ้นเกิดจากการขยายพื้นที่ปลูกและมีการใช้ท่อนพันธุ์ มันสำปะหลังที่มีไข่  ตัวอ่อน และตัวเต็มวัยเพลี้ยแป้งติดไปกับท่อนพันธุ์ จากนั้นหลังปลูกจะมีมดเป็นพาหะนำเพลี้ยแป้งกระจายไปสู่ต้นมันสำปะหลังอื่นและแปลง ข้างเคียง
 
มีรายงานว่าในประเทศแถบแอฟริกาและ อเมริกาใต้การระบาดของเพลี้ยแป้งทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังลดลง 20-80 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของประเทศไทยพบว่าในหลายพื้นที่ที่พบการระบาดขณะต้นยังเล็กมีความรุนแรงจนต้องไถทิ้งและปลูกใหม่แต่ก็ยังระบาดซ้ำอีก เนื่องจากยังมี เพลี้ยแป้งอยู่บนเศษซากต้น และมีการระบาดที่แปลงข้างเคียง ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ท่อนพันธุ์เพิ่มขึ้น โดยพื้นที่ปลูก 1 ไร่ต้องใช้ท่อนพันธุ์ประมาณ 500 ต้นรวมทั้งเกษตรกรต้องพ่นสารกำจัดแมลงส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นทั้งค่าสารป้องกันแมลงและค่าแรงงานพ่น 
 
การป้องกันและกำจัดเพลี้ยแป้งให้ได้ผลต้องใช้วิธีการผสมผสาน ดังนี้
 
1. วิธีเขตกรรมและวิธีกล  
 
- ควรมีการไถและพรวนดินหลาย ๆ ครั้งและตากดินอย่างน้อย 2 สัปดาห์เพื่อลดปริมาณเพลี้ย แป้ง  
 
- ควรปลูกต้นฤดูฝนเพื่อให้มันสำปะหลัง แข็งแรง ทนทานต่อการทำลายของเพลี้ยแป้ง  
 
- คัดเลือกท่อนพันธุ์ที่สะอาดปราศจากเพลี้ยแป้ง และควรใช้พันธุ์ที่ทางราชการแนะนำ
 
- แหล่งที่ยังไม่พบการระบาด ควรมีการแช่ท่อนพันธุ์ในน้ำอย่างน้อย 1 ชั่วโมงเพื่อกำจัดเพลี้ยแป้งที่อาจติดมากับท่อนพันธุ์
 
- ถอนต้นหรือตัดส่วนของต้นมันสำปะ หลังที่มีเพลี้ยแป้งจำนวนมากออกจากแปลงแล้วเผา หรือทำลาย
 
2. การใช้ชีววิธี เพลี้ยแป้งมีศัตรูธรรมชาติทั้งแมลงเบียนและแมลงห้ำคอยควบคุมปริมาณเพลี้ยแป้งให้อยู่ในระดับสมดุลอยู่แล้วในสภาพปกติ ได้แก่ ด้วงเต่า และแมลงช้างปีกใส
 
3. การใช้สารฆ่าแมลง ควรใช้เมื่อมีการระบาดของเพลี้ยแป้งรุนแรงเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องพ่นทั้งแปลง ควรพ่นเฉพาะบริเวณที่พบเพลี้ยแป้ง ระยะพ่นที่เหมาะสม คือ ช่วงที่เพลี้ยแป้งอยู่ในวัยที่ 1-2   
 
สารฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพที่แนะนำให้ใช้  ได้แก่
 
- ไทอะมีโทแซม 25% WG  อัตรา 4 กรัม/น้ำ 20 ลิตร
 
- ไดโนทีฟูเรน 10% WP  อัตรา 20 กรัม/น้ำ 20 ลิตร
 
- โปรไทโอฟอส 50% EC  อัตรา 50 มล./น้ำ 20 ลิตร
 
- พิริมิฟอสเมทิล 50% EC   อัตรา 50 มล./น้ำ 20 ลิตร
 
- ไทอะมีโทแซม/แลมบ์ดาไซฮาโลทริน 24.7% ZC อัตรา 10 มล./น้ำ 20 ลิตร
 
หวังว่าเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังคงกำจัดเพลี้ยที่กำลังเป็นปัญหานี้ได้เมื่อทำตามคำแนะนำจากกรมวิชาการเกษตรอย่างเคร่งครัด ขอให้ได้ผลผลิตดีมีคุณภาพ.
 
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=198846&NewsType=1&Template=1


Windows Live™: Keep your life in sync. Check it out.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com

รายการบล็อกของฉัน